วันนี้ (28 ต.ค.2562) นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยความคืบหน้าโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) สายบางใหญ่-กาญจนบุรี ระยะทาง 96 กม. วงเงินประมาณ 6 หมื่นล้านบาท ว่า ล่าสุดกรมทางหลวง (ทล.) ได้รับความเห็นจากกฤษฎีกาถึงโครงการดังกล่าวว่าเป็นเรื่องการบริหารของ ทล.ซึ่งไม่ได้เป็นปัญหาด้านกฎหมาย
โดยวันพรุ่งนี้ (29 ต.ค.) เตรียมเสนอให้ที่ประชุม ครม.พิจารณาเห็นชอบเพิ่มกรอบวงเงินงบประมาณค่ากรรมสิทธิ์ที่ดินจาก 5,420 ล้านบาทที่ ครม.ได้เคยพิจารณาอนุมัติไปแล้วนั้น เป็นวงเงินประมาณ 1.37 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ ส่วนของกรอบวงเงินดังกล่าวนั้น เนื่องจากภายหลังพิจารณาราคาที่ดินแล้ว พบว่ากรอบวงเงินสามารถลดลงได้ประมาณ 500 กว่าล้านบาท จากเดิมที่ตั้งวงเงินไว้ที่ 1.4 หมื่นล้านบาท
อย่างไรก็ตามหาก ครม.พิจารณาเห็นชอบก็จะสามารถเริ่มจ่ายค่ากรรมสิทธิ์ที่ดินและครบทั้งหมดภายในสิ้นปี 2562 จากนั้นจะเริ่มเข้าพื้นที่ก่อสร้างได้ทันที ขณะที่ข้อเรียกร้องของประชาชนที่ต้องการเพิ่มวงเงินค่าเวนคืนนั้น สามารถดำเนินการอุทธรณ์ได้หลังจาก ครม.มีมติอนุมัติแล้ว แต่ต้องเป็นไปตามกระบวนการของกฎระเบียบที่กำหนดไว้

ส่วนงบประมาณที่จะนำไปจ่ายค่ากรรมสิทธิ์ที่ดิน ได้หารือร่วมกับสำนักงบประมาณ โดยยืนยันว่าหาก ครม.มีมติพิจารณาเห็นชอบก็สามารถดำเนินการจ่ายให้กับประชาชนได้ทันที เนื่องจากมีการจัดสรรแบ่งงบประมาณก่อสร้างคงเหลือของปีงบประมาณ 2561-2562 ไว้แล้ว นอกจากนี้ได้สั่งการให้ ทล.ไปเจรจากับผู้รับเหมา เพื่อปรับแผนและเร่งรัดการดำเนินการให้เร็วขึ้น ซึ่งกำหนดกรอบเวลาไว้ว่า ให้แล้วเสร็จภายในปี 2565
รมว.คมนาคม ยังกล่าวถึงกรณีข้อพิพาททางด่วนว่า จากการพิจารณาของคณะทำงาน โดยมีนายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธานนั้น อยู่ระหว่างการพิจารณาและการรวบรวมเอกสารของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) มาประกอบการพิจารณา เช่น มติ ครม., รายละเอียดของสัญญา, การดำเนินการของ กทพ. เป็นต้น
ทั้งนี้ กรอบในการพิจารณาจะต้องพิจารณาว่าการคิดคํานวณค่าเสียหายมีที่มาจากส่วนใด รวมถึงกระบวนการในการดำเนินการ ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ และหากมีความเสียหายใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ อย่างไรก็ตามคาดว่าเรื่องดังกล่าวจะจบภายในสิ้นปี 2562