วันนี้ (30 ต.ค. 2562) พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย ในฐานะประธานกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่นายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ส่งหนังสือกลับมาถามถึงอำนาจของกรรมาธิการในการเชิญนายกรัฐมนตรีและ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มาชี้แจงการเสนอร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ หลังคณะรัฐมนตรีถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบนั้น
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ระบุว่า เบื้องต้นรับทราบแล้วและยืนยันว่าใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญ 129 ในการเชิญนายกรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรีมาชี้แจง และเป็นมติคณะกรรมาธิการไม่ใช่ประธานกรรมาธิการเพียงคนเดียว ซึ่งเป็นเรื่องของกรรมาธิการกับผู้ที่ถูกเชิญเท่านั้น ไม่เกี่ยวข้องกับบุคคลที่ 3 และบุคคลอื่นไม่สามารถที่จะส่งหนังสือมาจากถามในลักษณะนี้ได้ เพราะเรื่องที่เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ถามมาก็เป็นเรื่องที่นายกและรองนายกรัฐมนตรี ต้องเป็นผู้มาตอบเองการที่บุคคลอื่นมาสอบถามแทนเป็นเรื่องที่เสียมารยาท ความรู้ก็มีการศึกษาก็มี แต่กลับไม่รู้จักหน้าที่ของตัวเอง
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยังกล่าวด้วยว่า หลังจากเข้าประชุมคณะกรรมาธิการการช่วงเช้า คาดว่าจะมีการรายงานเรื่องนี้จากนั้นจะมีการหารือและสรุปอีกครั้ง แต่ยืนยันว่าคณะกรรมาธิการฯจะเชิญนายกรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรีมาชี้แจงในเรื่องนี้ให้ได้และจะมีการเชิญบุคคลอื่นอีกด้วย
กรณีหนังสือของเลขาธิการนายกรัฐมนตรีที่ซักถามเกี่ยวกับปัญหาเฉพาะ ร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย แต่เหตุใดไม่มีปัญหากับร่าง พ.ร.บ.ฉบับอื่น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ชี้แจงว่า ถามตนไม่ได้ไม่ใช่หน้าที่ของเขา คนอื่นจะตอบได้เพียงแค่นายกรัฐมนตรีไม่ว่างหรือติดภารกิจเท่านั้น พร้อมย้อนถามว่า นายกฯใช้คนแบบนี้เหรอ ไม่ว่าถึงเจ๊งไปหมด ส่วนเงื่อนไขนายกรัฐมนตรีไม่ต้องมาชี้แจ้งก็ได้ เพราะไม่ใช่ข้าราชการประจำ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ไม่มีข้อยกเว้น ให้ไปดูมาตรา 129 ใช้คำว่าเชิญบุคคลใด ยกเว้นเพียงผู้พิพากษาที่กำลังพิจารณาคดี