นักวิชาการคาดพายุจ่อเข้าไทยอีก 10 ลูกในช่วง 2-3 เดือนนี้
ข้อมูลจากแบบจำลองของสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ และ การเกษตรแสดงว่า ตั้งแต่วันที่ 16-22 ส.ค. อิทธิพลของลมมรสุมจากฝั่งทะเลอันดามันและอ่าวไทยที่มาปะทะกันจะทำให้เกิดหย่อมความกดอากาศต่ำในประเทศไทย และ อาจก่อตัวเป็นพายุได้ในช่วงค่ำวันที่ 18 ส.ค. และ ทำให้เกิดฝนตกหนักมากในจังหวัดที่เพิ่งจะถูกน้ำท่วมและยังมีน้ำท่วมขังอยู่ โดยเฉพาะภาคเหนือ ที่จังหวัดน่าน พะเยา เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง สุโขทัย แพร่ และ อุตรดิตถ์
ขณะที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนที่จังหวัดหนองคาย นครพนม และ มุกดาหาร และ ภาคตะวันออกที่จังหวัด นครนายก ฉะเชิงเทรา และจันทบุรี บางพื้นที่จะมีฝนตกหนักกว่า 100 มิลลิเมตรต่อวันซึ่งเป็นปริมาณน้ำฝนที่ทำให้เกิดน้ำท่วมได้ ส่วนจังหวัดสงขลา นราธิวาส ปัตตานี และ ยะลา อาจเกิดฝนตกหนักตลอด 7 วันนี้เพราะอิทธิพลของลมมรสุมที่มีกำลังแรงขึ้น
ขณะที่ รศ.เสรี ศุภราทิตย์ ผู้อำนวยการศูนย์พลังงานเพื่อสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยรังสิต บอกว่า 2-3 เดือนข้างหน้านี้ประเทศไทยจะยังมีฝนตกหนักซึ่งอาจทำให้ภาคกลางเกิดน้ำท่วมหนักเหมือนปีที่แล้วประเทศไทยอาจต้องเผชิญกับพายุในทะเลจีนใต้อีก 2-5 ลูกจากที่คาดว่าจะเกิดขึ้นอีก 10 ลูก โดยมีโอกาสเป็นพายุโซนร้อน และพายุไต้ฝุ่นได้ โดยปกติแล้วพายุในทะเลจีนใต้และมหาสมุทรแปซิฟิกจะมีพายุปีละ 31 ลูกขณะนี้เกิดไปแล้ว 21 ลูกจึงเหลืออีก 10 ลูกที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วง 2-3 เดือนนี้ ซึ่งผลกระทบของพายุอาจส่งผลให้ภาคกลางและภาคใต้ของประเทศ มีฝนตกหนักและเกิดน้ำท่วมฉับพลัน
นักวิชาการ ยังบอกด้วยว่า จากนี้ไปหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และ ควรประเมินทุกสัปดาห์ เพื่อจะได้กำหนดแผนรับมือได้อย่างทันท่วงที