อาการผู้ป่วยโรคเมอร์สทรงตัว-ญาติ 3 คนปกติ
วันนี้ (19 มิ.ย.2558) พญ.จริยา แสงสัจจา ผู้อำนวยการสถาบันบำราศนราดูร ระบุว่า อาการของผู้ป่วยยังคงทรงตัว ขณะนี้สามารถลดปริมาณการให้ออกซิเจนชีพจรและจังหวะการเต้นของหัวใจอยู่ในเกณฑ์ดี ไม่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ส่วนโรคหัวใจที่เป็นโรคประจำตัวนั้น มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมาดูแลผู้ป่วยแล้วส่วนญาติของคนไข้ทั้ง 3 คน คือ ลูกชาย น้องชาย และลูกชายของน้องคนไข้ ได้ถูกกักตัวที่ห้องแยกโรคเช่นเดียวกัน ซึ่งอาการล่าสุดยังไม่มีความผิดปกติ
สำหรับความพร้อมของห้องแยกโรคที่สถาบันบำราศนราดูร ได้มีห้องคัดแยกจำนวน 5 ห้อง ในจำนวนนี้ได้เตรียมไว้รองรับผู้ป่วยโรคเมอร์สและญาติผู้ป่วย 4 ห้อง ส่วนอีก 1 ห้องรองรับผู้ป่วยรายเดิม ซึ่งหากพบผู้ป่วยโรคเมอร์สหรือมีความผิดปกติอยู่ในกลุ่มเสี่ยงรายใหม่ ทางกระทรวงสาธารณสุขได้ประสานเตรียมโรงพยาบาลในสังกัดของกระทรวงสาธารณาสุข ภาครัฐ และเอกชนทั่วประเทศแล้ว รวม 89 แห่ง โดยเป็นที่กรุงเทพมหานคร 20 แห่ง และภูมิภาคอีก 69 แห่ง ขณะที่การติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยจำนวน 59 คน ล่าสุดทราบรายชื่อแล้วทั้งหมด 58 คน ในจำนวนี้เป็นคนขับรถแท็กซี่ 2 คน ติดตามได้แล้ว 1 คน เหลืออีก1คน คือคนขับรถแท็กซี่ที่พาผู้ป่วยเดินทางจากโรงแรม ไปยังโรงพยาบาลเอกชน ที่ยังไม่สามารถติดตามตัวได้ นอกจากนี้ยังเป็นญาติผู้ป่วย 3 คน ซึ่งถูกกักตัวในห้องแยกโรค พยาบาล 20 คน ลูกเรือ 12 คน และบุคคลทั่วไปอีก 22 คน นอกจากนี้ยังเพิ่มมาตรการต้องติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดบนเครื่องบินอีก 106 คน
ทั้งนี้อาการของโรคเมอร์สผู้ป่วยจะมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ มีไข้สูงมากกว่า 38 องศาเซลเซียส มีอาการไอหอบ หายใจลำบาก อาเจียน ในรายที่อาการรุนแรงพบว่าผู้ป่วยจะมีอาการแย่ลงอย่างรวดเร็วภายใน 1 สัปดาห์ และมีประวัติเดินทางมาจากประเทศตะวันออกกลาง หรือ เป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากประเทศที่มีการระบาด และมีข้อแนะนำสำหรับผู้เดินทางที่กลับจากประเทศแถบตะวันออกกลาง ประเทศเกาหลีใต้ เพื่อป้องกันโรคเมอร์ส 4 ล. ได้แก่ หลีกเลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วย หรือ ผู้มีอาการไอ หรือ จาม สวมหน้ากากอนามัยป้องกันโรคขณะอยู่ในสถานที่ที่มีผู้คนจำนวนมาก ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่ หรือ แอลกอฮอล์ และหลีกเลี่ยงการสัมผัสสัตว์ หรือดื่มนมสัตว์ที่อาจเป็นแหล่งของโรค นอกจากนี้หากมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หอบเหนื่อย หายใจลำบาก รีบพบแพทย์ทันที พร้อมแจ้งประวัติเดินทาง