วันนี้ (6 พ.ย.2562) สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดชายแดนภาคใต้ (STMA) ออกแถลงการณ์ประณามผู้ก่อเหตุลอบโจมตีป้อม ชรบ.ยะลา โดยมีเนื้อหาดังนี้
แถลงการณ์ ฉบับที่ 2/2562
สถานการณ์ วันอังคารที่ 5 พฤศจิกายน 2562 เวลาประมาณ 22.15 น.ผู้ก่อเหตุไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาด ยิงใส่จุดดรวจ 2 จุดคือ จุดตรวจทางลุ่ม(ชรบ.และจุดตรวจ อส ชุด ชคต. หมู่ที่ 5 ต.ลำพระยา อ.เมืองยะลา จ.ยะลา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 15 คน ได้รับบาดเจ็บ 5 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นประชาชนในพื้นที่ที่มีจิตใจเสียสละมาทำหน้าที่ปกป้องชุมชน ในรูปแบบชรบ.หรืออาสาสมัครต่าง ๆ และเวลาต่อเนื่องกัน ผู้ก่อเหตุได้วางระเบิดเสาไฟฟ้า โปรยตะปูเรือใบ "ผู้บาดเจ็บและตาย เป็นทั้งพี่น้องไทยพุทธและมุสสิม ในจำนวนนี้มีเจ้าหน้าที่ 1 คน" ในพื้นที่ที่ถือว่าชุมชนเข้มแข็งที่สุดแห่งหนึ่งในจังหวัดชายแดนภาคใต้
"สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดชายแดนภาคใต้" ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวญาติพี่น้องของผู้ได้รับผลกระทบ นี่จึงเป็นเหตุการณ์ที่ต้อง "ประณาม" ผู้ก่อเหตุและนี่เป็นความสูญเสียที่เกิดขึ้นไม่ได้เพียงแต่ครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบในพื้นที่ แต่รวมถึงสังคมไทย และคนไทยทั้งชาติ นี่จึงเป็นสัญญาณที่ทุกคน ทุกฝ่ายต้องลุกขึ้นมาร่วมกันแก้ปัญหา
1.พี่น้องทุกชุมชนในพื้นที่ต้องไม่ให้ผู้ก่อเหตุ ซุกซ่อนหรือให้พี่พักพิง "ผู้ที่กระทำต่อผู้บริสุทธิ์" ไม่ควรเป็นญาติพี่น้องไคร
2.ต้องร่วมกันขจัดเงื่อนไขที่เชื่อมโยงให้มีขบวนการก่อการร้าย อาทิ ยาเสพติด หรือ สินค้าหนีภาษี รวมถึงผู้มีอิทธิพล
3. พี่น้องชรบ.และกลุ่มอาสาสมัครดูแลพื้นที่ต้องไม่เสียกำลังใจ ขณะเดียวกันต้องได้รับการดูแลจากรัฐ และการสนับสนุนจากประชาชนในพื้นมากยิ่งขึ้น รวมถึงทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
4.ฝ่ายการเมืองในพื้นที่ ตั้งแต่ระดับ อบต. ไปจนถึง อบจ. และ ส.ส.ต้องมีความจริงใจในการร่วมแก้ปัญหาโดยยึดประโยชน์ประชาชนมากกว่าพรรค หรือกลุ่มการเมือง หรือประโยชน์ส่วนตัว
5.ฝ่ายทหารและเจ้าหน้าที่รัฐ ต้องกระทำการด้วยความรอบคอบในการจับกุมผู้ก่อเหตุ เพื่อไม่สร้างเงื่อนไขใหม่ โดยชุมชนและประชาชนในพื้นที่ควรให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่
6.ฝ่ายความมั่นคงและทหาร จะต้องเร่งแก่ไข "การข่าว" เพื่อไม่ให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์หรือฝ่ายรัฐต้องสูญเสียมากเช่นปัจจุบัน
7. สื่อมวลชนต้องรายงานผลกระทบจากการสูญเสียมากกว่าเสนอรายละเอียดและความรุนแรงของเหตุการณ์ พร้อมร่วมนำเสนอ แนวทางแก้ปัญหาเพื่อนำไปสู่สันติสุข
วันนี้ สื่อมวลชนอาชีพและสื่ออิสระในพื้นที่ "ต้องทบทวนบทบาห" การที่มุ่งนำสนอข่าวเหตุการณ์ร้าย ที่ตอกย้ำผลงานให้ผู้ก่อเหตุและซ้ำเติมความเจ็บปวดแก่ประชาชนผู้สูญเสีย อีกทั้ง เพิ่มความหวาดระแวงต่อกันในหมู่ที่น้องประชาชน หรือประชาชนกับผู้ปฏิบัติหน้าที่"ไม่มีไครจะปิดกั้นสื่อได้ แต่สื่อทุกคน หรือผู้ที่ต้องการสื่อสาร ควรมีจิตสำนึกสาธารณะ ที่เห็นแก่ประเทศชาติ และประชาชนส่วนใหญ่มากกว่าประโยชน์ส่วนตัว อีกทั้งทุกฝ่ายต้องมาร่วมกันปกป้องไม่ให้เราต้องสูญเสียผู้บริสุทธิ์รายต่อไป"
ต้องขจัดผลักดันผู้ก่อเหตุร้ายให้พ้นพื้นที่ ต้องให้ความร่วมมือและสื่อสารปฏิเสธความรุนแรงทุกรูปแบบ และเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ความมั่นคงจับกุมผู้ก่อเหตุมาลงโทษตามกฎหมาย เพื่อให้จังหวัดชายแดนภาคใต้กลับคืนสภาพดินแดนพหุวัฒนธรรมอันแสนอบอุ่นเช่นในอดีต
สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดชายแดนภาคใต้ (STMA)
6 พ.ย.2562