วันนี้ (14 พ.ย. 2562) ที่โกดังเก็บสินค้าแห่งหนึ่งย่านเขตประเวศ กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 3 กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เข้าไปตรวจค้นหลังสืบสวนพบว่าเป็นที่เก็บพักสินค้าที่รอการส่งไปต่างประเทศ และมียาเสพติดซุกซ่อนอยู่ โดยโกดังแห่งนี้เป็นบริษัทที่รับจ้างบรรจุและรับฝากสินค้าเพื่อเตรียมนำส่งไปตามประเทศที่ลูกค้าต้องการ
ก่อนเข้าตรวจค้นตำรวจได้ควบคุมตัวนายปิยะนันท์ พงศ์เศรษฐ์ศิริ อายุ 44 ปี ได้เมื่อช่วงเย็นวันที่ 13 พ.ย.62 หลังจากพบข้อมูลว่าเป็นผู้ฝากส่งสินค้าเป็นกล่องไม้ขนาดใหญ่จำนวน 2 ลัง ไปยังเมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ผ่านทางบริษัทรับฝากส่งพัสดุภัณฑ์ไปต่างประเทศ โดยใช้ช่องทางท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 12 พ.ย. 62 และเป็นสิ่งของต้องสงสัยเนื่องจากมีน้ำหนักมากผิดปกติ
ตำรวจเปิดลังไม้ที่บรรจุเครื่องออกกำลังกายอยู่ภายใน
เมื่อเจ้าหน้าที่เปิดตรวจสอบพบว่าภายในลังไม้เป็นเครื่องออกกำลังกายประเภทลู่วิ่ง บรรจุอยู่ในลังกระดาษอีกชั้นหนึ่งแต่ภายใต้เครื่องที่สายพานวิ่ง พบเป็นท่อนเหล็กขนาดประมาณ 1 เมตร จำนวน 3 ท่อน ปิดหัวปิดท้ายไม่เห็นสิ่งของภายใน เจ้าหน้าที่จึงใช้เครื่องตัดเหล็กตัดออกและพบถุงที่บรรจุไอซ์ถุงละ 1 กิโกกรัม จำนวนท่อนละ 6 ถุง รวมภายในเหล็กมีไอซ์ท่อนละ 6 กิโลกรัม รวมทั้ง 2 ลังมีไอซ์ 36 กิโลกรัม จึงยึดไว้ตรวจสอบ
เจ้าหน้าที่ใช้เครื่องตัดเหล็กตรวจสอบของกลางในท่อเหล็ก
ไอซ์ที่พบในท่อเหล็ก 3 ท่อ รวม 18 กก.
จากนั้นวันนี้ พนักงานสอบสวนจึงนำหลักฐานขอศาลอาญาออกหมายจับนายปิยะนันท์ ในข้อหา พยายามส่งยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ไอซ์) ออกนอกราชอาณาจักรเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต และมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ไอซ์) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และคุมตัวมาตรวจค้นที่โกงดังที่มีสินค้าเตรียมรอส่งออกไปประเทศญี่ปุ่นอีกจำนวนมาก เมื่อมาตรวจสอบพบลังไม้ในลักษณะเดียวกับที่พบเจอที่สนามบินอีก 10 ลัง และซุกซ่อนไอซ์ในลักษณะเดียวกันทั้งหมด รวมน้ำหนักของกลางที่พบอีก 140 กิโลกรัม
เครื่องออกกำลังกายที่ซ่อนไอซ์ไว้ใต้เครื่องเตรียมนำส่งไปญี่ปุ่น
กล่องกระดาษที่ใช้บรรจุเครื่องออกกำลังกาย
พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผบช.ปส. เปิดเผยว่า หลังจากได้รับการประสานงานมาจากประเทศญี่ปุ่นว่ามียาเสพติดโดยเฉพาะไอซ์แพร่ระบาดเข้าไปจำนวนมาก โดยพบว่าต้นทางมาจากประเทศไทยจึงสั่งการให้สืบสวนเส้นทางของเครือข่ายนี้จนพบว่ามีกลุ่มขบวนการที่ลำเลียงไอซ์มาจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาทางชายแดนภาคเหนือ จากนั้นก็จะมีกลุ่มที่นำยาเสพติดมาบรรจุภัณฑ์ในสินค้าต่างๆ เพื่อที่จะส่งออกไปต่างประเทศ
ผช.ผบ.ตร. และผบช.ปส.แถลงข่าว
โดยเฉพาะช่องทางผ่านทางบริษัทขนส่งทั้งทางเครื่องบินและทางเรือ แม้ว่าจะเป็นการตรวจสอบที่ยากแต่เจ้าหน้าที่ก็พยายามแกะรอยจนพบเส้นทาง และได้ประสานงานกับศุลกากร รวมทั้งบริษัทที่รับจ้างขนส่งสินค้าทั้งในไทยและระหว่างประเทศ ให้ช่วยกันตรวจสอบสินค้าที่ส่งออกว่าต้องสงสัยหรือไม่ โดยเฉพาะน้ำหนักและคุณภาพสินค้าที่ส่งออกมีความจำเป็นหรือต้องการของประเทศปลายทางหรือไม่
ขณะที่ผู้ต้องหาอ้างไม่รู้ว่าภายในลังทั้งหมดนี้มียาเสพติดซุกซ่อนอยู่ ซึ่งตำรวจพบว่าผู้ต้องหาคนนี้ทำหน้าที่ประสานงานจากเจ้าของยาเสพติด โดยการนำยาเสพติดบรรจุใส่ท่อเหล็ก และนำมาบรรจุใส่สินค้าชนิดอื่นๆ ก่อนที่จะนำส่งไปประเทศต่างๆ ตามคำสั่งของเจ้าของยาเสพติด เบื้องต้นพบว่าทำมาแล้วหลายครั้งและมีข้อมูลว่าเคยส่งยาเสพติดไปที่ประเทศออสเตรเลีย
สำหรับการส่งสินค้าในครั้งนี้ ชุดสืบสวนพบว่าค่าใช้จ่ายในการส่งผ่านเครื่องบินไปยังญี่ปุ่น ต้องผ่านพิธีการศุลการกรทั้งการเสียภาษี ราคาตามน้ำหนักสิ่งของ และอบไม้เพื่อป้องกันราและปลวก รวมทั้งค่าดำเนินการต่างๆ ประมาณลังละ 100,000 บาท แต่สินค้าภายในลังที่นำส่งราคาถูกกว่าค่าส่ง อีกทั้งสินค้าที่จะนำส่งก็ไม่ได้คุณภาพและไม่ได้เป็นที่ต้องการของประเทศญี่ปุ่น จึงเป็นเหตุต้องสงสัยให้ตรวจสอบสินค้า และหากยาเสพติดถูกส่งไปถึงประเทศญี่ปุ่นมูลค่าจะทวีคูณขึ้น 10-20 เท่า ซึ่งไอซ์ทั้งหมดนี้หากส่งไปได้มูลค่าจะสูงกกว่า 880 ล้านบาท
รายงานสด..ตำรวจปส.จับผู้ต้องหาเตรียมส่งออกไอซ์ 176 กก.ไปญี่ปุ่น