วันนี้ (18 พ.ย. 2562) หลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครลงรับเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย ตั้ง นายภูมิธรรม เวชยชัยระบุว่า การส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อมเขต 7 จังหวัดขอนแก่น ล่าสุดมีผู้เสนอตัวเป็นแคนดิเดตลงสมัคร 4 คน คนแรกนายธนิก มาสีพิทักษ์ ,นายอดิศร เพียงเกษ อดีต ส.ส.ขอนแก่นมา 5 สมัย ,นายประสงค์ ศรีวัฒน์ และนายสุรพจน์ เตาะเจริญสุข สจ.หนองเรือ ในพื้นที่ และเป็นน้องชายนายนวัธ เตาะเจริญสุข
โดยคณะกรรมการฯสรุปเลือก 2 คน คือนายธนิก มาศีพิทักษและนายอดิสร เพียงเกษ เข้าสู่กระบวนการตามข้อบังคับ เพื่อให้คณะกรรมการคัดเลือกจังหวัดขอนแก่นพิจารณาเลือก และวันพฤหัสนี้คณะกรรมการจะรวบรวมความเห็นและนำเข้าสู่การประชุม พร้อใข้อสุปว่าพรรคจะส่งใครระหว่าง 2 คนที่กล่าวไป
ทั้งนี้มั่นใจว่าประชาชนจะให้การสนับสนุนเลือกเพื่อไทยเข้าไปรับใช้ประชาชนและขับเคลื่อนงานของฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ย้ำว่าจะรักษาพื้นที่ไว้ได้เพราะเป็นพื้นที่เดิมของพรรค และประชาชนได้เห็นว่าการที่เลือกรัฐบาลเข้าไปทำหน้าที่ส่งผลกระทบอย่างไรบ้าง. นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้รัฐบาลแข่งขันด้วยความยุติธรรม อย่าพยายามใช้อำนาจรัฐแทรกแซงการเลือกตั้ง
เบื้องต้นยังไม่ได้หารือกับพรรคร่วมฝ่ายค้านอย่างเป็นทางการ แต่มีแนวโน้มว่าจะเปิดให้พรรคเพื่อไทยและพรรครัฐบาลต่อสู้กันโดยตรง ท้ังนี้ต้องรอมติจากที่ประชุมแต่ละพรรคก่อน
นายภูมิธรรมระบุด้วยว่าการทำงานของฝ่ายค้านต้อนนี้กำลังดำเนินการเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ยอมรับยังไม่ค่อยราบลื่นเพราะมีการเลื่อนญัตติอยู่เรื่อย จะเชิญหัวหน้าพรรคและเลขาพรรคฝ่ายค้าน 7 พรรคมากำหนดยุทธศาสตร์การทำงานหลังจากนี้ เพื่อขับเคลื่อนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ทั้งนี้คณะกรรมการวรรหาผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยประกอบด้วย พลตำรวจเอกวิโรจน์ เปาอินทร์ ประธานคณะกรรมการรรหาฯ ,นายปลอดประสพ สุรัสวดี ,นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง , นายชัยเกษม นิติศิริ ,นาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ นาครทรรพ ,นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล,นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย ,นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ ,นายชูศักดิ์ ศิรินิล ,นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการคณะกรรมการ. และนายวัฒนา เตียงกูล ฝ่ายกฎหมายเป็นผู้ช่วยของเลขาฯ
ส่วนนายเอกราช ช่างเหล่า ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะ แกนนำ ส.ส.กลุ่มภาคอีสาน เปิดเผยว่าพรรคพลังประชารัฐเตรียมส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งคนเดิม คือนายสมศักดิ์ คุณเงิน ที่การเลือกตั้งเมื่อ 24 มีนาคมที่ผ่านมาได้คะแนนกว่า 26,000 คะแนน ซึ่งห่างจากเพื่อไทย 3,000 คะแนน โดยกลยุทธ์ในการเลือกตั้งครั้งนี้จะสร้างความเข้าใจกับประชชาชนในพื้นที่ถึงแนวทางการพัฒนาพื้นทีและแนวทางทำงานของ ส.ส.รัฐบาล โดยชี้ให้เห็นว่าหากเลือกรัฐบาลประชาชนจะได้อะไร