วันนี้ (19 พ.ย.2562) เพจดัง ได้เผยแพร่ข้อความพร้อมภาพถ่ายก้อนเนื้องอกกล้ามเนื้อมดลูก ขนาด 20 เซนติเมตร โดยระบุว่า "เพิ่งเคยเห็นก้อนใหญ่ขนาดนี้ เท่าที่ดูน่าจะเป็นพวกเนื้องอกในมดลูกที่เป็นกล้ามเนื้อ พวกนี้ไม่ค่อยกลายเป็นมะเร็ง แต่ถ้าก้อนมันใหญ่มากแบบนี้ก็ไม่ดี สาวๆ อย่าลืมไปตรวจภายในทุกปีนะ"
ขณะที่โพสต์ต้นทางเป็นเนื้องอกกล้ามเนื้อมดลูกที่ นพ.โอฬาริก มุสิกวงศ์ สูตินรีแพทย์ โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ได้ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊ก อธิบายเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวว่า หลังจากที่มีการส่งต่อกันผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ทำให้มีหลายคนตั้งคำถามเกี่ยวกับการเกิดเนื้องอกกล้ามเนื้อมดลูก สำหรับโรคนี้สามารถพบได้บ่อยในผู้หญิง
ตัวเลขงานวิจัยแต่ละรายงานก็มีตัวเลขที่ต่างกัน อย่างบางงานวิจัยบอกว่า มีโอกาส 50% แล้วถามว่า ตัวเองจะเป็นไหม ก็เหมือนโยนหัวโยนก้อยเลย คนหนึ่งเป็น อีกคนไม่เป็น
นพ.โอฬาริก อธิบายต่อว่า การจะทราบว่ามีเนื้องอกกล้ามเนื้อมดลูกหรือไม่นั้น แพทย์สามารถวินิจฉัยได้จาก 3 ปัจจัย ได้แก่ ประวัติของคนไข้ ต้องตรวจสอบว่าประจำเดือนมาผิดปกติหรือไม่ เช่น มีอาการปวดท้องมาก หรือประจำเดือนมามากผิดปกติ และต้องตรวจสอบก้อนเนื้องอกว่าโตแล้วไปกดเบียดอวัยวะต่างๆ เช่น กดกระเพาะปัสสาวะ ทำให้ปวดปัสสาวะบ่อย หรือไปกดท่อไต ทำให้ไตบวม หรือปวดเอว ปวดหลังได้ นอกจากนี้ จะมีผลกระทบต่อความผิดปกติของร่างกาย อย่างทำให้หญิงเกิดภาวะตั้งครรภ์ยาก รวมถึงตั้งครรภ์แล้วมีปัญหา รวมถึงภาวะมีบุตรยาก
หากยังตรวจไม่พบ อาจต้องมีการตรวจร่างกายเพิ่มเติม ซึ่งขั้นตอนนี้ต้องขึ้นอยู่กับตำแหน่งของเนื้องอกซึ่งอยู่ได้หลายพื้นที่ของร่างกาย หากเนื้องอกอยู่นอกมดลูกแพทย์ก็อาจจะสามารถคลำจนพบก้อนเนื้อได้ แต่หากอยู่ด้านในก็อาจจะไม่สามารถคลำพบ ดังนั้น การตรวจทางห้องปฏิบัติการ จึงเป็นการตรวจสอบเพื่อให้เกิดความแม่นยำมากขึ้น สำหรับการตรวจในห้องปฏิบัติการนั้น อาจต้องทำอัลตราซาวด์ ทำเอ็มอาร์ไอ (MRI Scan) หรือทำอัลตราซาวด์แบบพิเศษ
สำหรับคำถามที่ว่าเมื่อพบเนื้องอกกล้ามเนื้อมดลูก มีโอกาสจะเป็นโรคมะเร็งไหม นพ.โอฬาริก ยืนยันว่า มีโอกาสน้อยมาก โดยมีการศึกษาพบผู้ที่เป็นเนื้องอกกล้ามเนื้อมดลูกแล้วเป็นโรคมะเร็งอยู่ประมาณร้อยละ 0.1-0.3 หรือ 1,000 คน จะพบ 1 คนเท่านั้น
สำหรับการรักษา แนวทางการรักษาส่วนใหญ่จะยึดตามหลัก 3 อ. คือ อาการ อายุ และอยากมีลูก ยกตัวอย่าง คนไข้ไม่มีอาการอะไร แต่ตรวจพบเนื้องอกช่วงอายุ 20 ปี และในอนาคตก็อยากมีลูก การรักษาจึงอาจไม่สามารถตัดมดลูกได้ แต่หากเป็นคนที่อายุมาก และมีลูกมาแล้ว ก็สามารถผ่าตัดได้ รวมถึงการรักษาอื่นๆ ซึ่งมีทั้งการใช้ยา ไม่ใช้ยา การผ่าตัดก็มีทั้งกรณีเปิดหน้าท่อ ผ่าตัดส่องกล้อง ผ่าตัดส่องกล้องเข้าไปในมดลูกเพื่อตัดติ่งเนื้อ
มีคนถามว่าจะไปหาหมอดีไหม ทำไมถึงจะไม่ไปหาหมอ ต้องอยู่ที่ว่าเพราะอะไรถึงไม่ไปหาหมอ ถ้ารู้สึกอาย อายหมอไม่หาย อาจจะเป็นโรคได้ เพราะฉะนั้นอย่าเขินอาย มาหาหมอ ลองไปคุยกับคุณหมอดูสักครั้ง