ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (26 พ.ย.2562) พนักงานสอบสวนตำรวจนครบาลท่าข้าม เรียกตัวพยาน 3 คน ที่อยู่ในที่เกิดเหตุคดีฆาตกรรมอำพรางศพ น.ส.ยุรีย์ เถาวัลย์ มาสอบปากคำซึ่งทั้ง 3 คน ถือว่าเป็นประจักษพยานประกอบไปด้วย น.ส.วรนุช เพื่อนผู้เสียชีวิต นายชัย และตำรวจนครบาลท่าข้าม 1 นาย นอกจากนี้ยังมีพยานแวดล้อมอีก 2 คนที่เป็นคนใกล้ชิดกับผู้เสียชีวิต คือนายจ้างและเพื่อนสนิทซึ่งเป็นครูสอนพิเศษของนายศิระ สมเดช บุตรชายของ น.ส.ยุรีย์
นายมนต์ชัย ฉิมเอี่ยม นายจ้างผู้เสียชีวิต ให้ข้อมูลว่า เป็นผู้ให้ น.ส.วรนุช เพื่อนสนิทของผู้เสียชีวิตไปหาที่บ้านเพื่อตามงานของลูกค้าซึ่งเป็นสาเหตุให้ไปเจอนายศิระ บุตรชายของผู้เสียชีวิตและชิ้นส่วนมนุษย์
ผมให้คุณวรนุช (เพื่อนผู้เสียชีวิต) มา ขณะที่ผมก็ขับรถมาแต่ว่ามาจากในเมืองที่ค่อนข้างไกล เมื่อมาถึงก็เห็นตำรวจสายตรวจอยู่หน้าบ้าน และคิดว่าเพิ่งยิงเพราะตำรวจยังไม่เข้าไปในบ้าน ส่วนคุณวรนุชนั่งร้องไห้อยู่หน้าบ้าน พอเขาเปิดเจอเขาก็วิ่งออกมาเลย ผมมาก็เจอคุณวรนุชตัวสั่น
ส่วนพยานที่เป็นครูสอนพิเศษให้ปากคำที่เป็นข้อมูลด้านความสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูก และปัญหาที่บุตรชายของผู้เสียชีวิตเล่าให้ฟัง ซึ่งตำรวจสอบไว้ประกอบการตรวจสอบขยายผลคือ ปัญหาทางการเงินของลูกชายผู้เสียชีวิตที่อาจจะไปเกี่ยวข้องกับหนี้สิน
ด้าน พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยความคืบหน้าผลการตรวจพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ว่า ชิ้นส่วนร่างกายของผู้เสียชีวิตที่ถูกแยกชิ้นส่วน พบรอยฟกช้ำที่คิ้วซ้าย ส่วนร่างกายของนายศิระ มีรอยกระสุน 1 นัด ขณะที่ภาพกล้องวงจรปิดตรวจสอบช่วงเวลาหลัง 20.00 น.วันอาทิตย์จนถึงช่วงพบเหตุแล้วไม่พบบุคคลอื่นใดเข้า-ออก บ้าน
ขณะนี้ตำรวจพิสูจน์หลักฐานได้เก็บของมีคมไปทั้งหมด รวมถึงค้อนหรือสิ่งที่คาดว่าจะใช้ในการชำแหละอวัยวะ เบื้องต้นผลพิสูจน์ค่อนข้างแน่ชัดว่าเขาใช้อุปกรณ์พวกนั้น ณ ขณะนี้ ตั้งแต่เขาเข้ามากับแม่เขาก็ยังไม่มีใครเข้ามาในบ้านอีกเลย
ขณะที่สถาบันนิติเวชวิทยาโรงพยาบาลตำรวจญาติเข้าติดต่อรับศพ น.ส.ยุรีย์ กลับไปบำเพ็ญกุศลที่ จ.สุโขทัย แล้วพร้อมเปิดเผยผลการชันสูตรของแพทย์ระบุ ในใบรับรองการตาย ว่าพบบาดแผลถูกของแหลมแทงเข้าช่องอกทะลุปอดทำให้เสียเลือด