เมื่อวานนี้ (3 ธ.ค.2562) นายวีรวัฒน์ ปัณฑวังกูร รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า อีคอมเมิร์ซของไทยขยายตัวปีละ 13% และคาดว่าใน 1-2 ปีข้างหน้า จะเติบโตได้ 15-20% ต่อปี มีมูลค่าการซื้อขาย 300,000 ล้านบาท โดยปัญหาสำคัญของพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์คือการเข้าถึงเงินทุนด้วยสาเหตุหลายประการ เช่น เอกสารไม่เพียงพอ ไม่ได้เดินบัญชี ไม่มีหลักประกัน ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญในการขอสินเชื่อกับสถาบันการเงิน
ทั้งนี้ ผู้ค้าออนไลน์สามารถกู้ได้ตั้งแต่หลักพันบาทจนถึงวงเงินกู้สูงสุด 600,000 บาท ตั้งเป้าปี 2563 ปล่อยกู้วงเงิน 1,000 ล้านบาท หรือประมาณ 10,000 ราย โดยคิดดอกเบี้ยต่ำ 12-19% โดยผู้กู้ไม่ต้องมีหลักประกัน ไม่ต้องยื่นเอกสาร ฟรีค่าธรรมเนียมในการกู้ โดยให้ระยะเวลาการกู้สูงสุด 6 เดือน ส่วนการชำระคืนหนี้นั้นธนาคารจะหักจากบัญชียอดขายของผู้ค้าหรือลูกหนี้ในทุกเดือน จึงถือว่ามีความเสี่ยงต่ำ
รอผลอนุมัติเงินกู้ภายใน 1-3 นาที
นายวีรวัฒน์ กล่าวอีกว่า ลาซาด้า ประเทศไทย ได้คัดผู้ค้าออนไลน์มาให้ธนาคารระดับหนึ่งแล้ว จากข้อมูลพฤติกรรมของลูกค้ากลุ่มนี้ ทำให้สามารถอนุมัติเงินกู้ได้รวดเร็วขึ้น ภายในเวลาเพียง 1 นาที หรือไม่เกิน 3 นาที จะรับรู้ผล และโอนเงินเข้าบัญชีให้ผู้ค้าได้ทันที ถือว่าเร็วกว่าการไลน์ไปขอยืมเงินเพื่อน เพราะต้องถามกันไปมา เพื่อยืนยันว่าเป็นเพื่อนตัวจริงไม่ได้ถูกแฮกไลน์มายืม โดยธนาคารได้ทดลองปล่อยเงินกู้ให้กับผู้ขายออนไลน์บนลาซาด้าไปบ้างแล้ว และได้ผลตอบรับที่ดี
ด้านนายแจ๊ค จาง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ลาซาด้า ประเทศไทย กล่าวว่า ในปัจจุบันมีผู้ค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์มลาซาด้าที่มีการซื้อขายสม่ำเสมอประมาณวันละ 50,000 ราย เชื่อว่าการจับมือกับธนาคารพาณิชย์เพื่อปล่อยสินเชื่อต่อยอดการค้า จะช่วยทำให้ผู้ค้าออนไลน์เข้าถึงแหล่งเงินทุนง่ายขึ้น และขยายร้านค้าให้เติบโตได้