วันนี้ (4 ธ.ค.2562) นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ปีนี้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้จัดงานวันสิ่งแวดล้อมไทยและวันอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้านแห่งชาติ ประจำปี 2562 ตรงกับวันที่ 4 ธ.ค.ของทุกปี ภายใต้แนวคิด “ดูแลโลก เพื่อให้โลกดูแลเราตลอดไป” เพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิต พระผู้ทรงเป็นบิดาแห่งการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ควบคู่กับรณรงค์ให้ประชาชนเห็นคุณค่าและความสำคัญของการทำความดีในเรื่องของจิตอาสาตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่สำคัญช่วยเสริมสร้างจิตสำนึกและการมีส่วนร่วมอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะการร่วมกันลดปริมาณขยะพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง ทั้งนี้ ปีนี้ได้สำรวจสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่องการงดให้บริการถุงพลาสติกหูหิ้ว โดยดุสิตโพล จำนวน 2,032 คน จากทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 30 ต.ค. - 15 พ.ย.2562 ที่มีต่อนโยบาย การงดให้บริการถุงพลาสติกหูหิ้วตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2563 เป็นต้นไป พบมีประชาชนมีความคิดเห็น ดังนี้
- เห็นด้วยกับนโยบายงดแจกถุงพลาสติก ร้อยละ 90
- มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตนเองกันบ้างแล้ว ร้อยละ 91.28
- ทราบนโยบายงดให้บริการถุงพลาสติกหูหิ้ว ร้อยละ 88.78
- เห็นด้วยกับการพกถุงผ้า ร้อยละ 86.71
- เห็นควรมีกฎหมายควบคุม ร้อยละ 77.46
- เห็นด้วยกับการเก็บเงินหรือขายถุงพลาสติกหูหิ้ว ณ จุดขาย ร้อยละ 61.42
ด้าน นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า อยากขอเชิญชวนประชาชนเตรียมความพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของประเทศตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นไป ห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อกว่า 76 บริษัททั่วประเทศพร้อมใจกันงดให้บริการถุงพลาสติกหูหิ้วที่มีความหนาน้อยกว่า 36 ไมครอน หรือถุงก๊อบแก๊บให้กับประชาชนที่เข้ามาใช้บริการ และร่วมกันรณรงค์สร้างการรับรู้ให้ประชาชนเตรียมความพร้อม
10 ปี ขยะมูลฝอยไทย เพิ่มขึ้น 4 ล้านตัน
แม้หลายภาคส่วนเริ่มตื่นตัวกับการลดขยะจากต้นทาง แต่ข้อมูลกรมควบคุมมลพิษที่รายงานสถานการณ์ปริมาณขะมูลฝอยที่เกิดขึ้นของประเทศไทย พบว่าในปี พ.ศ. 2561 มีปริมาณขยะมูลฝอยที่เกิดขึ้นจากแหล่งกำเนิดขยะมูลฝอยต่าง ๆ ประมาณ 27.93 ล้านตัน หรือประมาณ 76.529 ตันต่อวัน ซึ่งมีปริมาณขยะมูลฝอยเพิ่มมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของประชากร การบริโภคที่เพิ่มมากขึ้น การขยายตัวของชุมชนเมือง และการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตจากสังคมเกษตรกรรมสู่สังคมเมืองในหลายพื้นที่ โดยพบว่าอัตราการเกิขยะมูลฝอยโดยเฉลี่ยเท่กับ 1.15 กิโลกรัมต่อคนต่อวัน ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา
เช็ก! จังหวัดไหนมีขยะมูลฝอยตกค้างมากที่สุด
นอกจากนี้ กรมควบคุมมลพิษ ยังมีข้อมูลการจัดลำดับจังหวัดที่มีปริมาณขยะมูลฝอยตกค้างในสถานที่กำจัดขยะมูลฝอยที่ดำเนินการไม่ถูกต้อง ปี 2561 พบว่าจังหวัดที่มีปริมาณขยะมูลฝอยตกค้างสูงที่สุด คือ จ.นครศรีธรรมราช โดยพบว่ามีปริมาณขยะมูลฝอยตกค้างประมาณ 1.17 ล้านตัน ซึ่งพบว่าอยู่ในสถานที่กำจัดขยะมูลฝอยของเทศบาลนครนครศรีธรรมราชมากที่สุดประมาณ 1.12 ล้านตัน
เมื่อพิจารณา 5 ลำดับที่มีปริมาณขยะมูลฝอยตกค้างสูงสุด ได้แก่ จังหวัดนครศรีธรรมราช (1.17 ล้านตัน) จังหวัดสระบุรี (0.37 ล้านตัน) จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (0.29 ล้านตัน) จังหวัดระยอง (0.25 ล้านตัน) และจังหวัดลพบุรี (0.24 ล้านตัน)