จากกรณีมีข่าวนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าพักในรีสอร์ตแห่งหนึ่งที่จ.เพชรบูรณ์ โดยเปิดเครื่องทำน้ำอุ่นระบบแก๊สทิ้งไว้เพื่อให้ความร้อนเข้ามาในห้องนอน จนทำให้หมดสติ วันนี้ (15 ธ.ค.2562) นพ.ณรงค์ สายวงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในช่วงหน้าหนาวนักท่องเที่ยวนิยมเดินทางไปท่องเที่ยวภูเขา ดอยสูงทางภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตามรีสอร์ตที่พักมักใช้เครื่องทำน้ำอุ่นระบบแก๊ส ซึ่งทำให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และคาร์บอนมอนนอกไซด์
ทั้งนี้เมื่อสูดดมเข้าไปในปริมาณมากและเป็นเวลานาน จะมีอาการวิงเวียน ปวดศีรษะ มึนงง หน้ามืด หายใจลำบาก คลื่นไส้ อาเจียน ซึม หมดสติ และเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคหัวใจ โรคโลหิตจาง หอบหืด ถุงลมโป่งพอง ความดันโลหิตสูง เป็นกลุ่มเสี่ยงมีโอกาสเสียชีวิตสูง จึงควรเปิดช่องหรือพัดลมระบายอากาศในระหว่างอาบน้ำทุกครั้ง และเปิดประตูห้องน้ำทิ้งไว้อย่างน้อย 20 นาทีก่อนที่คนต่อไปจะใช้ห้องน้ำ
นพ.ณรงค์ กล่าวว่า กรณีไม่มีพัดลมดูดอากาศให้สำรวจว่าประตูห้องน้ำมีช่องระบายอากาศกว้างพอที่อากาศภายนอกจะเข้ามาได้ แต่หากไม่มีทั้งพัดลมดูดอากาศและประตูห้องน้ำปิดทึบ ควรแง้มประตูห้องน้ำระหว่างอาบน้ำ และไม่ควรอาบน้ำนานเกินไป หากถ้ามีอาการผิดปกติหรือได้กลิ่นแก๊สมากผิดปกติ ควรรีบออกจากห้องน้ำทันที นอกจากนี้ จะต้องใช้เฉพาะการอาบน้ำ ไม่นำไปใช้ทำความร้อนภายในห้องพัก
สำหรับผู้ที่นอนเต็นท์ขอย้ำว่าห้ามจุดเตาผิงไฟในเต็นท์ ซึ่งจะเกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซด์จากการเผาไหม้ขังอยู่ภายในเต็นท์ เมื่อหายใจเข้าไปจะทำให้สมองขาดออกซิเจนไปเลี้ยง ง่วงหลับโดยไม่รู้ตัวและเสียชีวิตได้
เตือนใช้เครื่องทำน้ำอุ่นระบบแก๊ส อย่าอาบน้ำเกิน 10 นาที
ขณะที่ปี 2562 กองประเมินผลกระทบต่อสุขภาพ กรมอนามัย เคยสำรวจข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวใน 2 อำเภอของ จ.เชียงใหม่ พบว่า 117 แห่งมีการใช้เครื่องทำน้ำอุ่น ระบบแก๊ส ร้อยละ 72.6 โดยแบ่งเป็น โรงแรม หรือรีสอร์ต ร้อยละ 54.1 บ้านพักเจ้าหน้าที่ ร้อยละ 30.6 และบริการอาบน้ำ ร้อยละ 5.9
ทั้งนี้ ผลการสำรวจยังพบว่า ร้อยละ 44.7 มีห้องน้ำขนาดเล็ก หรือน้อยกว่า 3 ตารางเมตร แต่ส่วนใหญ่มีระบบการระบายอากาศ และพบด้วยว่าปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพจากการใช้เครื่องทำน้ำอุ่น ระบบแก๊ส ที่สำคัญ ได้แก่ คุณภาพของผลิตภัณฑ์ การติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่น และการระบายอากาศ รวมทั้งความรู้ ความเข้าใจของผู้ประกอบการ และนักท่องเที่ยว
แนะนำต้องเปิดพัดลมระบายอากาศทุกครั้งที่อาบน้ำ กรณีที่ไม่มีควรหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องทำน้ำอุ่น ระบบแก๊ส แต่หากจำเป็นต้องใช้ ควรเปิดประตูไว้ขณะอาบน้ำให้ระบายอากาศได้ และไม่ควรอาบน้ำเกิน 10 นาที
กรณีอาบน้ำติดต่อกันหลายคน ควรเปิดพัดลมระบายอากาศและเปิดประตูห้องน้ำทิ้งไว้ อย่างน้อย 15 นาที เพื่อให้อากาศถ่ายเท หากได้กลิ่นแก๊สผิดปกติ ให้ออกจากห้องน้ำทันที โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงที่ต้องดูแลพิเศษ ได้แก่ เด็ก ผู้สูงอายุ คนที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง โรคระบบทางเดินหายใจ และผู้ที่กำลังป่วย ควรมีผู้คอยดูแลช่วยเหลืออย่างใกล้ชิดขณะอาบน้ำ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
6 วิธีรับมืออากาศหนาว เตือนท่องเที่ยวรับลมหนาวระวังที่พักขึ้นรา