วันนี้ (18 ธ.ค. 2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ประชุมคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน ของสภาผู้แทนราษฎร ที่มีรองศาสตราจารย์ปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ เป็นประธาน ได้เชิญผู้จัดกิจกรรม “วิ่งไล่ลุง” มาชี้แจงเรื่องตามที่ยื่นร้องต่อกรรมาธิการ
โดยนายธนวัฒน์ วงศ์ไชย ในฐานะผู้จัดกิจกรรม อ้างอิงถึงเหตุการจัดการแถลงข่าวจัดกิจกรรมถึง 2 ครั้ง ที่มีเจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาแทรกแซงการแถลงข่าวจัดงาน และยังยืนยันว่าเป็นเพียงกิจกรรมวิ่ง ไม่ใช่การชุมนุมทางการเมือง ซึ่งเป็นสิทธิเสรีภาพของประชานที่พึงกระทำได้ ดังนั้นการกระทำของตำรวจ จึงเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ขณะที่นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะกรรมการธิการ ระบุเห็นด้วยจัดกิจกรรมดังกล่าว เพราะเป็นกีฬา แต่ย้ำถึงการเคารพสิทธิของผู้อื่นด้วย และต้องพิจารณาว่าการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะอนุญาตนั้นใช้ดุลยพินิจอย่างไรประกอบการพิจารณา
ส่วนนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ในฐานะกรรมาธิการ ระบุว่าภาพข่าวการขวางการจัดกิจกรรมที่เผยแพร่ในสื่อต่างประเทศนั้นเป็นภาพลักษณืที่เป็นลบต่อประเทศ และผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรงเรื่องนี้ โดยเฉพาะผู้กำกับสน.ลุมพินี ที่รับผิดชอบสถานการณ์วันเกิดเหตุไม่ได้มาชี้แจง ซึ่งย้ำว่าต้องเชิญตำรวจมาชี้แจงและกระบวนการสอบฯนี้น่าจะต้องต่อเนื่องในสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ประจำกรรมาธิการแจ้งต่อที่ประชุมว่า ผกก.สน.ลุมพินี คนปัจจุบัน ชี้แจงสาเหตุที่มาไม่ได้ เพราะไม่ทราบเรื่อง และเพิ่งได้รับการแต่งตั้งมาประจำสน.ลุมพินี เมื่อ 16 ธันวาคม ซึ่งมาหลังจากเกิดเหตุการณ์แล้ว จึงไม่ทราบเรื่องที่เกิดขึ้น
นอกจากนี้นางสาวพรรณิการ์ วานิช ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ในฐานะรองประธานฯ ระบุว่าประเด็นที่กรรมาธิการต้องพิจารณา 4 ประเด็น คือ เป็นการใช้อำนาจเกินขอบเขตหรือไม่ของเจ้าหน้าที่ ,สน.ชนะสงคราม ไปกดดันโรงแรมสถานที่แถลงข่าวครั้งที่ 2 ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ไม่ให้ผู้จัดงานแถลงข่าวหรือไม่ ,เรื่องที่ตำรวจนครบาลยังไม่อนุญาตให้จัดกิจกรรมวิ่งไล่ลุงซึ่งผ่านไปแล้ว 2 สัปดาห์ที่แจ้งขอจัดงาน และต้องเชิญเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการอนุญาติจัดงานในวันวันที่ 12 มกราคม 63 ว่าสุดท้ายจะจัดกิจกรรมหรือไม่ ตามที่อำนาจหน้าที่ของตำรวจต้องอำนาจความสะดวก แต่ที่ผ่านมายังเกิดอุสรรค ที่เป็นความกังวลของผู้จัดว่าจะไม่ได้จัดกิจกรรมดังกล่าว
ทั้งนี้เนื่องจากผู้ชี้แจงติดภารกิจไม่สามารถเข้าชี้แจงการประชุมได้ คณะกรรมาธิการเห็นควรให้เลื่อนนำเข้าสู่การประชุมในครั้งต่อไป โดยเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหรือผู้แทน ,ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลหรือผู้แทน, ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลลุมพินี, ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลชนะสงคราม ,ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร,สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทยเชิญเพื่อชี้แจง ซึ่งในกรณีไม่สะดวกเข้าร่วมสามารถจัดส่งเป็นเอกสารเพื่อชี้แจงได้
นอกจากนี้ที่ประชุมกรรมาธิการการกฎหมายยังมีมติตั้งคณะทำงาน 2 คณะ คือคณะทำงานเพื่อศึกษาผลกระทบจากการกระทำ ประกาศและคำสั่งของคุณะรักษาความสงบแห่งชาติ และการใช้อำนาจของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติตามมาตรา 44 ตลอดจนประกาศและคำสั่งของคณะปฏิวัติอื่น ๆ และคณะทำงานเพื่อพิจารณาศึกษาผลกระทบจากการบังคับใช้กฎหมายในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 3 อำเภอในจังหวัดสงขลา