วันนี้ (23 ธ.ค.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้รับมอบหมายจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้เป็นประธานเปิดการประชุมสัมมนา "การบูรณาการงานพัฒนาคุณภาพชีวิตกับการป้องกันการบาดเจ็บจากการจราจรทางถนน" ร่วมกับ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และประกาศนโยบาย "มหานครปลอดภัย ปลอดอุบัติภัยทางถนน" ของกรุงเทพมหานคร โดยมี นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค ผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ จากกระทรวงสาธารณสุข และกรุงเทพมหานคร ร่วมประชุม 310 คน ที่ห้องประชุมวายุภักษ์ โรงแรมเซ็นทรา บาย เซ็นทารา กรุงเทพมหานคร
ไทยมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุปีละ 22,000 คน
นายสาธิต เปิดเผยว่า ในแต่ละปีประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนกว่า 22,000 คน ใน 15 ปีมียอดผู้เสียชีวิตสะสมมากถึง 400,000 คน จัดเป็นลำดับ 9 ของโลก โดยกรุงเทพมหานครมีผู้เสียชีวิตจากการจราจรทางถนนเป็นอันดับที่ 1 ของประเทศ 6 ปีซ้อน สร้างความสูญเสียทางเศรษฐกิจสูงถึง 232,000 ล้านบาท และยังส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของญาติพี่น้อง ลูก พ่อ แม่ ของผู้เสียชีวิต หรือผู้พิการในระยะยาว
บูรณาการข้อมูลวิเคราะห์ปัจจัยเกิดอุบัติเหตุ
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมกับกรุงเทพมหานคร หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน พัฒนากลไกการดำเนินการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนระดับเขต (พชข.) แก้ไขปัญหาป้องกันการบาดเจ็บ เสียชีวิต และพิการจากการจราจรทางถนน โดยยกระดับข้อมูลจาก 3 ฐาน เป็น 3 ฐานพลัส นำข้อมูลผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตจากบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ตำรวจ และมรณบัตรจากกระทรวงสาธารณสุขมาบูรณาการ เพิ่มข้อมูลจากสถาบันนิติเวชอีก 7 แห่ง มาวิเคราะห์ปัจจัยที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ
"ดื่มเหล้า" เป็นสาเหตุหลักการเกิดอุบัติเหตุ
สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการดื่มเหล้า จุดเสี่ยงที่เกิดอุบัติเหตุ เช่น ทางโค้ง ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ นำไปใช้วางแผนการดำเนินงาน เช่น การตรวจสมรรถนะของผู้ขับขี่รถสาธารณะ โดยการใช้ Fit for Drive ร่วมกับกรมการขนส่งทางบก ตั้งเป้าลดอัตราการเสียชีวิตและการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุการจราจรทางถนนเหลือครึ่งหนึ่ง ตามนโยบายรัฐบาลที่ตั้งเป้าลดอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนให้เหลือไม่เกิน 10 ต่อประชากรแสนคน ภายใน พ.ศ.2563
กรอบทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนน
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวอีกว่า ภายใต้กรอบทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนน 8 มาตรการ คือ 1. ส่งเสริมการสวมหมวกนิรภัย 2. ลดพฤติกรรมเมาแล้วขับ 3. แก้ไขปัญหาจุดเสี่ยงจุดอันตราย 4. ปรับพฤติกรรมของผู้ขับขี่ยานพาหนะให้ใช้ความเร็วตามที่กฎหมายกำหนด 5. ยกมาตรฐานยานพาหนะโดยเฉพาะมาตรฐานของรถจักรยานยนต์ รถกระบะ รถโดยสารสาธารณะ และรถบรรทุก 6. พัฒนาสมรรถนะของผู้ใช้รถใช้ถนน ให้มีความปลอดภัย 7. พัฒนาระบบการแพทย์ฉุกเฉิน ให้การบริการเข้าถึงผู้บาดเจ็บได้อย่างทั่วถึงและรวดเร็ว และ 8. พัฒนาระบบการบริหารจัดการความปลอดภัยทางถนนของประเทศให้มีความเข้มแข็ง