วันนี้ (23 ธ.ค.2562) จากกรณีสื่อสังคมออนไลน์มีการวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับเหตุการณ์นักเรียนคนหนึ่งใช้เศษแก้วทำร้ายเพื่อนในโรงเรียนดังใน จ.ปทุมธานี ล่าสุด โรงเรียนปทุมวิไล ได้จัดแถลงเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว โดย นายศราวุธ ฤทธิ์จอหอ ครูที่อยู่ในเหตุการณ์ ระบุว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นในวันที่ 20 ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงเวลาพักของนักเรียนระหว่างการสอบ โดยเหตุเกิดบริเวณโรงอาหาร เมื่อเกิดเหตุชุลมุนจึงเข้าไปห้าม แล้วมีนักเรียนแจ้งว่ามีนักเรียนได้รับบาดเจ็บ จึงเร่งนำตัวเด็กส่งโรงพยาบาลปทุมธานี และได้แจ้งให้กับผู้ปกครองและผู้อำนวยการทราบ ส่วนนักเรียนที่ทำร้ายร่างกายเพื่อน ได้นำตัวไปที่ห้องปกครอง และประสานครูที่ปรึกษาเพื่อให้เข้ามาเกลี้ยกล่มและพูดคุยกับเด็ก
หลังจากเด็กที่ได้รับบาดเจ็บได้รับการรักษาโดยเย็บ 8 เข็ม เมื่อพักฟื้นและสามารถออกจากโรงพยาบาลได้ ก็ได้มีการพูดคุยกับนักเรียนที่ก่อเหตุที่ห้องปกครองภายในโรงเรียน โดยผู้ปกครองของนักเรียนที่ก่อเหตุพร้อมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด และจะนำนักเรียนคนดังกล่าวไปพบจิตแพทย์ โดยผู้ก่อเหตุได้เริ่มใช้ยาเพื่อรักษาอาการป่วยตั้งแต่ก่อนเรียนชั้น ม.4 เมื่อมีอาการดีขึ้น จึงได้หยุดยาไป ส่วนนักเรียนที่บาดเจ็บเมื่อทราบว่าเพื่อนป่วยทางจิตก็ไม่ได้ติดใจเอาความแต่อย่างใด เพียงแค่ลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.เมืองปทุมธานี เท่านั้น
นางอุบลวรรณ มงคลางกูร ครูที่ปรึกษาของนักเรียนที่ก่อเหตุ ระบุว่า 1 ปีการศึกษาที่ดูแลนักเรียนที่ก่อเหตุมา นักเรียนเป็นคนเรียนเก่ง ตั้งใจเรียน ไม่มีพฤติกรรมก้าวร้าวมาก่อน อีกทั้งยังมีความสามารถพิเศษ คือ เป็นนักร้องและได้รับรางวัลจากการประกวดวงดนตรีร่วมกับเพื่อน หลังเกิดเหตุได้พูดคุยกับนักเรียน ซึ่งนักเรียน ระบุว่า ไม่ได้คิดวางแผนมาก่อนล่วงหน้า แต่ในขณะนั้นสถานการณ์กระตุ้นอาการของเขา เนื่องจากมีการพูดคุยกันมากจนทำให้ก่อเหตุดังกล่าว
ไม่ลงโทษ นร.แชร์ข้อมูลลงโซเชียล
งามพิศ ลวากร ผู้อำนวยการสำนักเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 4 ระบุว่า กระแสข่าวบางเรื่องก็จริง บางเรื่องก็ไม่จริง จึงอยากให้นำเสนอเฉพาะเรื่องจริงเท่านั้น สำหรับเหตุการณ์ของโรงเรียนปทุมวิไลนี้ หากเกิดเรื่องจะมีขั้นตอนสำหรับการรายงานเหตุการณ์ดังกล่าว หลังโรงเรียนเกิดเหตุก็มีการรายงานตามลำดับขั้น เพื่อให้ สพฐ.ได้ดำเนินการต่อไป เพื่อไม่ให้มีข่าวลือหรือข่าวเท็จออกไป หลังจากนี้จะมีการวางมาตรการกับ สพฐ. เพื่อเตรียมรับมือกับเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
นอกจากนี้ นายเอกพรต สมุทธานนท์ ผู้อำนวยการโรงเรียนปทุมวิไล ยังยืนยันว่า ไม่มีการเอาผิดนักเรียนที่เผยแพร่รูปภาพและข้อความเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างแน่นอน โดยเหตุการณ์ผ่านมา 3 วันแล้ว แต่ยังไม่ได้มีการสืบหาผู้เผยแพร่ข้อมูลดังกล่าว เนื่องจากโรงเรียนไม่ได้ติดใจว่าใครเป็นผู้เผยแพร่ข้อมูล เพียงแต่ได้พูดคุยกับนักเรียนในโรงเรียนช่วงเช้าหน้าเสาธง เกี่ยวกับการใช้สื่อสังคมออนไลน์เท่านั้น เนื่องจากภาพบางภาพเป็นภาพที่ไม่เหมาะสมและน่ากลัว ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อตัวนักเรียนทั้ง 2 ฝ่าย
สพฐ.เตรียมพัฒนาครูด้านจิตวิทยาประจำโรงเรียนทั่วประเทศ
ขณะที่ ผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจคุ้มครองและช่วยเหลือเด็กนักเรียน สพฐ. ระบุว่า ขอแสดงความเสียใจกับผู้ปกครองทั้ง 2 ฝ่าย โดยเลขาธิการ สพฐ. ได้มอบแนวทางการแก้ไขปัญหาในเหตุความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นในโรงเรียน โดยเฉพาะภัยคุกคามที่เกิดขึ้นกับนักเรียน โดยจะมอบภารกิจให้สถานศึกษาทั่วประเทศ พัฒนา EQ เด็ก โดยส่งเสริมให้ทำกิจกรรมเสริมสร้างคุณธรรม กิจกรรมแนะแนว เพื่อสร้างความรัก ความสามัคคี รวมถึงการสร้างเครือข่ายกับผู้ปกครอง เนื่องจากโรงเรียนรับผิดชอบเด็กในช่วงที่มีการเรียนการสอน หลังเลิกเรียนผู้ปกครองจะต้องช่วยดูแลเด็กไปในทิศทางเดียวกัน
อีกส่วนที่กังวล คือ นักเรียนทั้ง 2 คน กำลังศึกษาอยู่ในชั้น ม.6 ดังนั้น สพฐ.หวังว่าเด็กทั้ง 2 คน จะสามารถเรียนจบชั้น ม.6 ได้ โดยหวังว่าหลังจากจบการศึกษาไปแล้วเด็กจะสามารถคิดเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวได้ และในอนาคตจะมีการพัฒนาครูด้านจิตวิทยา ทั้งจิตวิทยาคลินิก และจิตวิทยาแนะแนว เพื่อให้ครูได้ดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด และขับเคลื่อน ปลูกฝังสิ่งดีๆ ให้นักเรียนทั่วประเทศ รวมถึงการร่วมมือกับจิตแพทย์จากสาธารณสุขจังหวัดที่อยู่ใกล้เคียงเพื่อมาให้คำปรึกษานักเรียนในโรงเรียนอย่างใกล้ชิด