มท.กำชับคุมจุดเสี่ยงอุบัติเหตุ รองรับคนกลับ กทม.

วันนี้ (2 ม.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันที่ 6 ของการรณรงค์ลดอุบัติเหตุ 1 ม.ค.2563 พบว่าสา เหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด เมาสุรา คิดเป็นร้อยละ 39.31 รองลงมาคือ ขับรถเร็วเกินกำหนดร้อยละ 28.34 ส่วนยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือรถจักรยานยนต์ ร้อยละ 79.35 ส่วนใหญ่เกิดบนถนนทางตรง

ทั้งนี้สถิติอุบัติเหตุทางถนนวันที่ 1 ม.ค.นี้ เกิดอุบัติเหตุ 547 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 55 ราย ผู้บาดเจ็บ 577 คน สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 6 วัน ของการรณรงค์ (27 ธ.ค.62– 1 ม.ค.63) เกิดอุบัติเหตุรวม 3,076 ครั้ง ผู้เสียชีวิตรวม 317 ราย ผู้บาดเจ็บ รวม 3,160 คน

นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.กระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานแถลงข่าวสรุปผลการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563 กล่าวว่า คาดว่าประชาชนบางส่วนยังคงอยู่ระหว่างการเดินทางกลับจากภูมิลำเนา จึงเร่งเปิดช่องทางพิเศษเร่งระบายรถ และปิดจุดเสี่ยงอุบัติเหตุ เน้นย้ำเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจบังคับใช้กฎหมายอย่างต่อเนื่อง

 

โดยคุมเข้มผู้ขับขี่ที่มีพฤติกรรมเสี่ยง ทั้งขับรถเร็ว ดื่มแล้วขับ ไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย รวมถึงประเมินความพร้อมของผู้ขับขี่ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากการขับรถเร็ว และง่วงหลับใน

ขณะที่สถิติการเกิดอุบัติเหตุ สะสม 6 วัน พบว่า เกิดอุบัติเหตุรวมแล้ว 3,076 ครั้ง เสียชีวิต 317 คน และบาดเจ็บ 3,160 คน จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด คือ จังหวัดสงขลา 95 ครั้ง จังหวัดที่เสียชีวิตสะสมสูงสุด คือ กรุงเทพมหานคร 14 คน และจังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด คือ สงขลา 100 คน จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต มี 7 จังหวัด ได้แก่ ตราด พะเยา ภูเก็ต แม่ฮ่องสอน ยะลา ลำพูน และสตูล

กำชับอำนวยความสะดวกรับคนกลับกรุง

ด้านนายพรพจน์ เพ็ญพาส รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านสาธารณภัยและพัฒนาเมือง กล่าวว่า ขอให้จังหวัดวิเคราะห์ข้อมูลอุบัติเหตุทางถนน ให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ โดยให้ความสำคัญกับประเด็นที่เป็นสาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุทางถนน โดยเฉพาะอำเภอที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนสูง เพื่อนำไปปรับปรุงและพัฒนาแนวทางการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน

วันนี้คาดว่ามีประชาชนบางส่วนเดินทางกลับ ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยแก่ประชาชนต่อเนื่อง จัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกบริเวณเส้นทางที่มีการจราจรแออัด โดยให้เข้มข้นเส้นทางสายรอง ทางเลี่ยง ทางลัด ซึ่งเป็นถนนทางตรง วิ่งสวนเลน และไม่มีเกาะกลาง ผู้ขับขี่มักใช้ความเร็วสูงทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ

นอกจากนี้ ขอให้กวดขันการจอดรถริมทาง และร้านค้าที่วางสิ่งของล้ำช่องทาง เพื่ออำนวยการจราจรให้คล่องตัวและป้องกันอุบัติเหตุจากการแซงริมไหล่ทาง

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

หยุดปีใหม่ 5 วัน เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน 256 คน

วันแรกเกิดอุบัติเหตุ 464 ครั้ง 30% เมาแล้วขับ