วันนี้ (13 ม.ค.2563) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวระหว่างเป็นประธานพิธีเปิดตัวโครงการยุวชนสร้างชาติว่า รัฐบาลมุ่งผลักดันแก้ปัญหาความยากจน วางยุทธศาสตร์ชาติ แต่ต้องอาศัยความร่วมมือทุกภาคส่วน โดยเฉพาะคนหนุ่มสาว ทุกวันนี้ประเทศอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านและเป็นความท้าทายที่จะทำให้ประเทศเดินหน้า หลายอย่างเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น เช่น เรื่องการใช้เทคโนโลยีต่างๆ
ขอบคุณคนรุ่นใหม่ที่นำเสนอแนวคิดใหม่ๆ เพราะการพัฒนาทรัพยากรเป็นเรื่องสำคัญ และทุกวันนี้ต้องปรับตัวเปลี่ยนแปลง โดยต้องคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมด้วย เพื่อขับเคลื่อนสังคมให้ไปข้างหน้าด้วยกัน ต้องสอดคล้องกับข้อกฎหมาย นอกจากนี้อยากให้เยาวชนทุกคนร่วมมือเป็นกำลังสำคัญของชาติ เพราะเป็นคนรุ่นใหม่ที่จะมาทดแทนคนรุ่นเก่า บางคนอาจจะมาเป็นรัฐมนตรี เกี่ยวข้องกับการบริหารประเทศต่อไป
ดังนั้นจะต้องไม่มีปัญหาขัดแย้งกัน ซึ่งวันนี้ประเทศกำลังพัฒนา จึงจำเป็นต้องใช้งบประมาณมากขึ้นทุกปี ไม่ได้ตั้งงบฯ มาใช้ประโยชน์ส่วนตัว สอดคล้องกับแผนงานระยะสั้น ปานกลาง และระยะยาว ซึ่งบางเรื่องอาจทำไม่ได้ทันที แต่สิ่งสำคัญต้องไม่มีการทุจริต
ประเทศไทยไม่เหมือนที่ใดในโลก เพราะมีอัตตลักษณ์ มีความเข้มแข็งในตัวเอง แต่อาจจะมีปัญหาบ้างในเรื่องประชาธิปไตย ดังนั้น จึงต้องร่วมมือกัน พร้อมยืนยันว่า นายกรัฐมนตรี ทำตามกติกาทุกอย่าง และเคารพความคิดเห็นของลูก ๆ หลาน ๆ คนรุ่นใหม่ แต่ขอให้คิดวิเคราะห์ด้วย พร้อมฝากให้ทุกคนช่วยกันคิดเพื่อนำไปสู่การพัฒนา โดยเฉพาะการพัฒนาท้องถิ่น
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐบาลไม่ได้รีดภาษี แต่การได้มาซึ่งงบประมาณพัฒนาประเทศ ก็มาจากภาษีประชาชน จึงขอให้ทุกคนจ่ายภาษีอย่างถูกต้อง และวันนี้งบประมาณมีมากขึ้น แต่ไม่ได้ตั้งงบขึ้นมาเพื่อใช้ส่วนตัว และยืนยันว่าทุกอย่างมีกระบวนการตรวจสอบ แต่ขอให้ตรวจสอบอย่างสร้างสรรค์
นอกจากนี้ไม่ว่าพรรคใด รวมถึงทุกคนต่างหวังดีต่อประเทศชาติ ซึ่งไม่ว่าใครจะเชียร์หรือจะไล่ ตนไม่ได้เป็นศัตรูกับใคร พร้อมเคารพความเห็นทุกฝ่าย แต่ไม่อยากให้มาเสียเวลากับเรื่องเหล่านี้ เรื่องใดขุ่นข้องหมองใจควรพูดคุยกัน อย่าให้กลับไปใช้กำลังเข่นฆ่ากันอีก เพื่อขับเคลื่อนประเทศชาติต่อไป ขณะนี้โลกกำลังมีปัญหา ดังนั้นเราไม่ควรขัดแย้งกันภายในเพราะ ควรนำวิกฤตที่เกิดขึ้นมาใช้เป็นโอกาส