วันนี้ (16 ม.ค.2563) นายมนตรี มะลิทอง ผู้อำนวยการส่วนจัดการป่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 8 (นครราชสีมา) กรมป่าไม้ กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2554 กรมป่าไม้ ตรวจสอบพบกลุ่มนายทุนบุกรุกสร้างรีสอร์ตและบ้านพักตากอากาศในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาภูหลวง อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ซึ่งได้มีการสั่งดำเนินคดีไปแล้ว 44 คดี แต่จนถึงปัจจุบัน มีการตัดสินเสร็จสิ้น และรื้อถอนแล้วเพียง 2 คดีเท่านั้น
ส่วนอีก 42 คดีอยู่ในชั้นพนักงานอัยการ ซึ่งเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาภูหลวง ที่อยู่ในลุ่มน้ำชั้น 1 และ ชั้น 2 เป็นพื้นที่ห้ามบุคคลครอบครองเพื่อทำประโยชน์
ใช้รูปแบบ คทช.แก้รุกป่าให้แค่ "ชาวบ้าน"
นายมนตรี กล่าวอีกว่า ขณะนี้กรมป่าไม้ ได้ร่วมบูรณาการจัดระเบียบพื้นที่รอบเขาแผงม้า กับเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาแผงม้า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา โดยพื้นที่เขตติดต่อกับเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาแผงม้า บางส่วนเป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาภูหลวงโซน ซี หรือป่าอนุรักษ์ และป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาภูหลวงโซน อี หรือป่าเศรษฐกิจ
สำหรับป่าโซนอี บางส่วน กรมป่าไม้ได้โอนมอบพื้นที่ ให้กับสำนักงานปฏิรูปที่ดิน หรือ ส.ป.ก.ไปแล้ว ส่วนที่เหลือจำนวน 4,000 ไร่ หลังจากรัฐบาล มีมติเห็นชอบให้มีการจัดสรรที่ดินทำกินให้กับชาวบ้านที่ทำกินอยู่เดิม ในพื้นที่ดังกล่าวตามมติคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ทางกรมป่าไม้ ได้สำรวจพื้นที่จำนวน 400 แปลง รวมพื้นที่ประมาณ 4,000 ไร่ เพื่อกระจายสิทธิมอบให้ชาวบ้านครอบคลุม 400 ครอบครัว ขณะนี้ถึงขั้นพิสูจน์สิทธิแล้ว คาดว่าอีกไม่นานจะสามารถติดประกาศได้
รัฐบาลจะช่วยเหลือเพียงประชาชนที่ไม่มีที่ดินทำกินเท่านั้น ต้องเอื้อมมือให้ถึงประชาชน ส่วนเจ้าของที่ดิน 44 คดี จะไม่ได้รับสิทธิ์ที่ดินตาม คทช. เนื่องจากเป็นนายทุน
มั่นใจคุมชาวบ้านไม่รุกเพิ่ม-เข้มซื้อขายเปลี่ยนมือ
นอกจากนี้ นายมนตรี ยังระบุว่า สำหรับที่ดินทำกินตามนโยบายของ คทช.นั้น ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ก่อนแล้วจะมีสิทธิได้รับที่ดินทำกิน โดยกรมป่าไม้ ได้จัดเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าและหน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้ เตรียมพร้อมดูแลและประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านได้เข้าใจเพื่อไม่ให้มีการขยายพื้นที่จากที่ทำกินเดิมหรือขยายไปมากกว่า 4,000 ไร่ และเปลี่ยนมือซื้อขายที่ดินไม่ได้
เจ้าหน้าที่ได้เริ่มทำการตรวจสอบสิทธิ รวมถึงการซื้อขายเปลี่ยนมือ จะได้รู้ว่ามีการซื้อขายเปลี่ยนมือหรือไม่ หากพบนายทุนเข้ามาซื้อขายเปลี่ยนมือจะดำเนินคดีตามกฎหมายทันที
นายมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่พบการปัญหาบุกรุกขตป่าสงวนแห่งชาติเพิ่มเติม เนื่องจาก กรมป่าไม้ได้จัดเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างเข้มงวด หากมีผู้รุกล้ำจะดำเนินการตามกฎหมายทันที ส่วนการบุกรุกเขตพื้นที่ห้ามล่าสัตว์ป่าเขาแผงมานั้น ก็ยังไม่มีการบุกรุก เนื่องจากเขตห้ามล่าฯ มีกำหนดเขตพื้นที่ที่ชัดเจนใน 5,000 ไร่ และมีเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างใกล้ชิด