พบตัวแล้วสาวบุรีรัมย์นั่งติดชายตอ.กลาง ส่งเข้ารพ.สังเกตอาการ “ไวรัสเมอร์ส”14วัน
วันนี้ (20 มิ.ย.2558) ผู้สื่อข่าวรายงานจากจ.บุรีรัมย์ว่า ญาติของผู้โดยสารที่นั่งมาในเที่ยวบินเดียวกับชายชาวตะวันออกกลาง ที่ตรวจพบเชื้อเมอร์สรายแรกในไทย ยืนยันเป็นผู้โดยสารหญิง อยู่ที่ต.ยายแย้มพัฒนา อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ล่าสุดเจ้าหน้าที่สาธารณสุขนำตัวไปตรวจร่างกายเบื้องต้น และสอบสวนโรคที่โรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติ และถูกกักตัวไว้ที่ห้องแยกโรค เพื่อเฝ้าสังเกตอาการตามขั้นตอน 14 วัน ขณะที่เจ้าหน้าที่ยังปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลผลการตรวจร่างกายโดยละเอียด
ส่วนครอบครัวและญาติยังคงใช้ชีวิตปกติ และไม่มีความกังวล ขณะที่พี่ชายระบุว่า มั่นใจว่าน้องสาวไม่ได้ติดเชื้อเมอร์ส เพราะมีอาการปกติ ไม่มีไข้ และขอให้งดการนำเสนอข่าว เพราะอาจส่งผลต่อการใช้ชีวิตของคนครองครัว
ขณะที่ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงราย จ.เชียงราย เพิ่มความเข้มงวด ตรวจคัดกรองผู้โดยสารที่เดินทางเข้ามาจากต่างประเทศมากขึ้น เพื่อป้องกันเชื้อไวรัสเมอร์ส
สำหรับอาการของผู้ป่วยชาวโอมาน ที่เข้ารับการรักษาอาการภายในห้องแยกโรค สถาบันบำราศนราดูร ตั้งแต่ช่วงเช้า วันที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมา นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รมว.สาธารณสุข เปิดเผยว่า ล่าสุดอาการดีขึ้น ผลเอกซเรย์ปอดอยู่ในเกณฑ์ดี หายใจได้เอง ส่วนญาติผู้ป่วยอีก 3 คน ไม่มีอาการไข้ และไอ
นอกจากนี้ผลการตรวจเชื้อเจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการ 2 คน ไม่พบเชื้อเมอร์ส ขณะที่อีกคนยังไม่สามารถยืนยันผลได้ เนื่องจากไม่มีอาการไข้ อาจต้องพิจารณาอีก 1-2 วันว่าจะต้องตรวจเชื้อซ้ำหรือไม่ แต่ทั้งหมดอยู่ภายในห้องแยกโรค ที่สถาบันบำราศนราดูรจนครบ 14 วัน
ส่วนผู้ต้องสงสัยชาวบุรีรัมย์ ที่เดินทางมาสายการบินเดียวกันกับผู้ป่วย และคนขับแท็กซี่ นพ.สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย รักษาการปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้อาการปกติ และให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเฝ้าระวังอาการอย่างใกล้ชิด
“ขณะนี้มีจำนวนผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยชาวโอมานทั้งหมด 175 คน บางส่วนเข้ารับการรักษาที่สถานพยาบาล เพื่อเฝ้าดูอาการ บางส่วนเฝ้าระวังอาการอยู่ที่บ้าน ภายใต้การดูแลของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจนกว่าจะพ้นระยะฟักตัวของโรค 14 วัน โดยไม่สามารถระบุว่า กลุ่มเสี่ยงมากหรือน้อย”
อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้ผู้เชี่ยวชาญจากองค์การอนามัยโลก จะร่วมติดตามการทำงานของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเกี่ยวกับการเฝ้าระวัง และป้องกันโรคเมอร์สของไทย รวมทั้ง ร่วมปฏิบัติงานกับเจ้าหน้าที่ด้วย
ส่วนวันที่ 22 มิ.ย.นี้ กระทรวงสาธารณสุข จะเชิญโรงพยาบาลเอกชนประมาณ 100 แห่ง ร่วมหารือมาตรการความพร้อมเฝ้าระวังควบคุมโรค ซึ่งส่วนใหญ่ทุกโรงพยาบาล จะมีมาตรการดูแลผู้ป่วยโรคติดเชื้อ และห้องแยกโรคอยู่แล้ว