คนแรก! "โฟนอิน" ผู้ต้องหาชิงทองลพบุรี

"อยากจะพูดอะไรกับสื่อมวลชน พูดได้เลยต่อหน้าสื่อมวลชน และ ผบ ตร."

ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ของการแถลงข่าวจับกุมที่นำผู้ต้องหาโดยพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้ใช้รูปแบบการโฟนอิน ให้ผู้สื่อข่าวสัมภาษณ์นายประสิทธิชัย เขาแก้ว หรือ ผอ.กอล์ฟ ผู้ต้องหาคดีชิงทองใน จ.ลพบุรี ที่กราดยิงชิงร้านทองในห้างโรบินสัน จ.ลพบุรี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน และบาดเจ็บ 4 คน เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมา

โดยการแถลงข่าวในคดีนี้ เกิดขึ้้นที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ท่ามกลางการเกาะติดของสื่อมวลชนจำนวนมาก หลังจากตำรวจจากหลายหน่วยร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาได้โดยใช้เวลา รวม 14 วัน ซึ่งก่อนหน้านี้ในช่วงเช้า หน่วยปฏิบัติการพิเศษหนุมาน กองปราบ ได้คุมตัวนายประสิทธิชัย มาที่กองปราบ และเดิมคาดว่าจะถูกนำตัวมานั่งในห้องแถลงข่าวครั้งนี้ แต่สุดท้ายผู้ต้องหาไม่มาด้วย

 

โดยมีผบ.ตร.เป็นผู้นำถามคำถามแรกด้วยวิธีการ "โฟนอิน"

กอล์ฟได้ยินมั้ย ตอนนี้สื่อมวลชนเฝ้าฟังอยู่นะครับ สื่อมวลชนจะถามอะไร? ได้ยินมั้ยกอล์ฟ สื่อถามมูลเหตุจูงใจในการลงมือทำครั้งนี้ เพื่ออะไร

ครับท่านครับ 

ที่ก่อเหตุเกิดจากปัญหาส่วนตัว และปัญหาเกี่ยวกับทางการเงินของตัวเอง ส่วนเด็กผมไม่เห็น ผมยิง รปภ.เพื่อเปิดทาง คาดว่ากระสุนแฉลบไปโดยเด็ก ไม่ได้ตั้งใจ

การโฟนอินครั้งนี้ ถือเป็นเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ในการรายงานผลคดี เพราะถือเป็นการปฏิบัติตามกระบวนการยุติธรรม อันเป็น "สิทธิในการได้รับการสันนิษฐานว่าเป็นผู้บริสุทธิก่อนศาลมีคำพิพากษาเป็นที่สุด ถือเป็นสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานที่ผู้ต้องหาในคดีอาญาทุกคน พึงได้รับการคุ้มครอง" 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง ฟังชัดๆ ผบ.ตร."ผมไม่ใช่กรมปศุสัตว์" จะไปจับแพะ-จับแกะ  

 

 

เปิดสิทธิผู้ต้องหาในกระบวนการยุติธรรม

ข้อมูลจากคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 855/2548 เรื่องการปฏิบัติเกี่ยวกับการให้ข่าว การแถลงข่าว การให้สัมภาษณ์ การเผยแพร่ภาพต่อสื่อมวลชน และการจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ 

โดยเนื้อหาสำคัญ เช่น ผู้มีอํานาจหน้าที่ให้ข่าว แถลงข่าว หรือ ให้สัมภาษณ์ต้องปฏิบัติภายในขอบเขต อํานาจหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายเท่านั้น ควรระมัด ระวังถ้อยคํา หรือกิริยาท่าทาง อันจะเป็นการล่วงละเมิดสิทธิของผู้อื่น และควรใช้ถ้อยคําที่เป็นกลางเพื่อไม่ให้เป็นการประจาน ดูหมิ่นเหยียดหยามผู้อื่น

ห้ามให้ข่าว แถลงข่าว หรือให้สัมภาษณ์ในกรณีที่ เป็นเรื่องที่อาจส่งผลกระทบหรือเสียหายต่อคดี โดยเฉพาะคดีที่อยู่ในระหว่างการสืบสวนหรือสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น

ห้ามนําหรือจัดให้ผู้เสียหาย ผู้ต้องหา หรือพยาน มาให้ข่าวแถลงข่าวหรือ ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนทุกแขนง ยกเว้นกรณีที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณชน จึงให้ขออนุญาตต่อผู้บัญชาการ

 

สอดคล้องกับเพจเฟซบุ๊กของ กลุ่มงานคดีทั่วไป สำนักงานกฎหมายและคดี สำนักปลัดกรุงเทพมหานคร
ที่เคยแพร่ข้อมูลไว้ ระบุว่า ผู้ต้องหาหมายถึง บุคคลผู้ถูกกล่าวหาว่าได้กระทำความผิด แต่ยังไม่ได้ถูกฟ้องต่อศาล(ป.วิ.อ.มาตรา 2(2)

จากความหมายของผู้ต้องหาดังกล่าว จะเห็นได้ว่าผู้ต้องหานั้นเป็นเพียงผู้ต้องสงสัยว่าได้กระทำความผิดเท่านั้น แต่การที่เขาจะกระทำความผิดจริงหรือไม่นั้น ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานต่างๆโดยศาล ซึ่งผู้ต้องหานั้นถือเป็นมนุษย์คนหนึ่ง ที่รัฐธรรมนูญฯได้รับรองสิทธิขั้นพื้นฐานต่างๆไว้ ประเทศไทยได้รับรองสิทธิของผู้ต้องหา เช่น

• สิทธิที่จะได้รับการสันนิษฐานไว้ก่อนว่าไม่มีความผิด และก่อนมีคำพิพากษาถึงที่สุดจะแสดงว่าบุคคลใดได้กระทำความผิด จะปฏิบัติต่อบุคคลนั้นเสมือนเป็นผู้กระทำผิดมิได้(รัฐธรรมนูญ ม.39)
• สิทธิที่จำได้รับการสอบสวนหรือพิจารณาด้วยความถูกต้อง รวดเร็ว ต่อเนื่องและเป็นธรรม (รัฐธรรมนูญฯ ม.40 (3)(4)(7) ป.วิอาญา ม.130, 134 วรรคสาม)
• สิทธิที่จะได้รับการพิจารณาคำขอประกันผู้ต้องหาหรือจำเลยในคดีอาญาอย่างรวดเร็ว และจะเรียกหลักประกันจนเกินควรมิได้ การไม่ให้ประกันต้องอาศัยเหตุตามกฎหมายและต้องแจ้งเหตุให้ทราบโดยเร็ว (รัฐธรรมนูญฯ ม.40(7) และ ป.วิอาญา ม.106 ถึง 114)
• สิทธิที่จะมีล่ามหรือล่ามภาษามือ กรณีที่ผู้ต้องหาไม่สามารถพูดหรือเข้าใจภาษาไทยหรือไม่ สามารถพูดหรือได้ยินหรือสื่อความหมายได้ (ป.วิอาญา ม.13 วรรคสองและวรรคสาม)

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ผู้ต้องหาคดีชิงทองรับ "ปัญหาส่วนตัว-การเงิน" แรงจูงใจก่อเหตุ

นำตัวผู้ต้องหาชิงทอง จ.ลพบุรี เข้า กทม.

แกะรอยหลักฐานมัดตัวผู้ต้องหาชิงทองลพบุรี