วันนี้ (30 ม.ค.2563) ศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงานว่า สถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ยังคงส่อเค้าความรุนแรงต่อเนื่อง นำมาซึ่งมาตรการสูงสุดของทางการจีน เพื่อป้องกันและควบคุมโรคไม่ให้แพร่กระจายเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นมาตรการการระงับการสัญจรเข้าออกจากเมือง และการคมนาคมขนส่งภายในเมือง ครอบคลุม 18 เมืองภายในมณฑลหูเป่ย
การระงับการดำเนินธุรกิจและจัดการท่องเที่ยวแบบกรุ๊ปทัวร์ของผู้ประกอบการท่องเที่ยวจีนทั้งในและต่างประเทศ การสั่งปิดสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในเมืองอื่นๆ ของจีนที่คาดว่าจะมีผู้ใช้บริการจำนวนมาก อาทิ กำแพงเมืองจีน เซี่ยงไฮ้ดิสนีย์แลนด์ รวมถึงการขยายระยะเวลาช่วงวันหยุดตรุษจีนออกไปอีก 3 วันจากเดิมที่สิ้นสุดวันที่ 30 ม.ค.2563 เพื่อชะลอการเดินทางของผู้คน
ไวรัสระบาดกระทบ GDP จีน 0.3%
ทั้งนี้ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคคาบเกี่ยวกับช่วงเทศกาลตรุษจีนที่ชาวจีนมีการเดินทางท่องเที่ยวและจับจ่ายใช้สอยเป็นจำนวนมาก ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าผลกระทบของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ต่อเศรษฐกิจจีนเบื้องต้นในกรอบระยะเวลา 1 เดือน อาจสูงถึง 300,000 ล้านหยวน ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 0.3 ของ GDP จีนทั้งปี
ทั้งนี้ ส่งผลให้อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนในปี 2563 อาจต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ร้อยละ 5.5-5.9 โดยมีผลกระทบหลักๆ ผ่านทางภาคค้าปลีก ภาคขนส่ง และภาคบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับการบริโภคและการท่องเที่ยว
จับตามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ทั้งในจีนเองและนอกประเทศจีน ยังคงเป็นประเด็นที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด โดยหากสถานการณ์ยื้ดเยื้อจะส่งผลให้เศรษฐกิจจีนเผชิญความเสี่ยงด้านลบเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ยังต้องจับตามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของทางการจีนในช่วงที่ผ่านพ้นการแพร่ระบาดของโรค เพื่อชดเชยความเสียหายทางเศรษฐกิจ ซึ่งยังมีความไม่แน่นอน
ท่ามกลางความสามารถในการใช้เครื่องมือทางการคลังของทางการจีน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่อยู่ในระดับที่จำกัด ดังนี้แล้ว ศูนย์วิจัยกสิกรไทยจะคอยประเมินสถานการณ์เป็นระยะ และจะมีการปรับปรุงตัวเลขทางเศรษฐกิจอีกครั้ง หากมีพัฒนาการใหม่ของระดับความรุนแรง ขอบเขตและความยืดเยื้อของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในระยะข้างหน้า