วันนี้ (4 ก.พ.2563) สำนักข่าวยอนฮับของเกาหลีใต้ รายงานว่าศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของเกาหลี (KCDC) ยืนยันว่า พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 คนที่ 16 ของเกาหลีใต้ เป็นหญิงอายุ 42 ปี ที่เดินทางกลับจากประเทศไทย เมื่อวันที่ 19 ม.ค.ที่ผ่านมา และเริ่มมีไข้ รู้สึกหนาวสั่นในวันที่ 25 ม.ค. จึงไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลและเข้าตรวจสอบจนมีผลทดสอบเชื้อไวรัสโคโรนาเป็นบวก
อย่างไรก็ตาม ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของเกาหลี เปิดเผยว่า แม้จะมีผู้ยืนยันติดเชื้อไวรัสโคโรนารายใหม่ แต่ทีมแพทย์เตรียมให้ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่มีอาการดีขึ้นและไม่แสดงอาการป่วยออกจากโรงพยาบาลภายในสัปดาห์นี้เป็นรายแรก โดยเป็นชายเกาหลีใต้ อายุ 55 ปี ซึ่งเดินทางกลับจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน เมื่อวันที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมา และมีการทดสอบการติดเชื้อในอีก 2 วันต่อมา ก่อนจะเป็นผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาคนแรกในเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 20 ม.ค.
ทั้งนี้ เกาหลีใต้ได้เริ่มใช้มาตรการควบคุมชายแดนที่เข้มข้นมากยิ่งขึ้น เพื่อขยายการรับมือกับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่กำลังปพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้ โดยสั่งห้ามไม่ให้นักท่องเที่ยวซึ่งไม่ใช่คนเกาหลีใต้ที่เดินทางมาจากหูเป่ยของประเทศจีนในช่วง 14 วัน เข้าประเทศ ซึ่งเริ่มวันนี้เป็นวันแรก
สธ.ชี้นักท่องเที่ยวมีโอกาสติดเชื้อโคโรนาจากกันได้
นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยถึงกรณีที่ทางการเกาหลีใต้ ระบุว่า มีหญิงชาวเกาหลีใต้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา หลังเดินทางกลับจากประเทศไทย ว่า ได้รับแจ้งข่าวกรณีนี้แล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงานกับหน่วยงานควบคุมโรคของเกาหลีใต้ เกี่ยวกับผลการสอบสวนโรคเบื้องต้น อาการของผู้ป่วย และผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ เพื่อนำข้อมูลเหล่านี้มาใช้ในการทำงาน และวิเคราะห์หาความเป็นไปได้ของพื้นที่ที่ผู้ป่วยอาจติดเชื้อ
ขณะเดียวกันเราอยู่ในระยะที่มีการแพร่เชื้อในประเทศ คนจีนที่ยังอยู่ในประเทศไทยและมีอาการป่วยก็สามารถแพร่เชื้อได้ ซึ่งโดยทั่วไปนักท่องเที่ยวจะอยู่รวมเป็นกลุ่มในพื้นที่ท่องเที่ยว ก็มีโอกาสที่นักท่องเที่ยวจะติดเชื้อจากกัน
โอกาสที่นักท่องเที่ยวต่างประเทศจะติดเชื้อกันในประเทศ ถามว่ามีความเป็นไปได้ไหม โดยทฤษฎีมีความเป็นไปได้
รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวอีกว่า ปัจจุบันประเทศไทยยังอยู่ในจุดที่มีการแพร่โรคในประเทศเป็นวงจำกัด กรณีที่เกิดขึ้นไม่ได้เปลี่ยนระดับการประเมินความเสี่ยงของคนไทย เพราะเรามีโอกาสในระดับที่ค่อนข้างต่ำที่จะสัมผัสกับผู้ติดเชื้อไวรัสดังกล่าวในประเทศ
แต่หากการแพร่โรคในประเทศไทยยังดำเนินต่อไปและเราไม่สามารถตรวจจับได้ จนระยะหนึ่งอาจมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้น และถ้ามีผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มขึ้นในประเทศจนไปถึงจุดหนึ่ง ระดับความเสี่ยงของคนไทยก็จะเพิ่มขึ้น ซึ่งตอนนี้อยู่ในระดับที่เราพยายามอย่างเต็มที่ในการควบคุม และค้นหาผู้ป่วยให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะหากค้นหาผู้ป่วยได้ก็จะสามาถค้นหาผู้สัมผัส เพื่อนำมาซักประวัติ ตรวจหาเชื้อและติดตามอาการได้