วันนี้ (6 ก.พ.2563) สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า เจียวหย่าฮุย เจ้าหน้าที่คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน (NHC) แถลงว่า บรรดาผู้ป่วยโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในจีน โดยเฉลี่ยเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล 5-20 วันก่อนได้รับอนุญาตให้กลับบ้าน
สถิติชี้ว่าผู้ป่วยในมณฑลไห่หนาน (ไหหลำ) ใช้เวลารักษาตัวในโรงพยาบาลเฉลี่ย 5 วัน ก่อนได้รับอนุญาตให้กลับบ้าน ขณะที่ผู้ป่วยในมณฑลหูเป่ย ซึ่งเป็นพื้นที่แรกที่พบการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสฯ ใช้เวลารักษาตัวในโรงพยาบาลนานถึง 20 วัน ส่วนผู้ป่วยพื้นที่อื่นๆ ที่อยู่นอกมณฑลหูเป่ยเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเฉลี่ยประมาณ 9 วัน
เจ้าหน้าที่คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน ระบุว่า เหตุผลที่ผู้ติดเชื้อในหูเป่ยอยู่ในโรงพยาบาลนานกว่าที่อื่นเป็นเพราะหูเป่ยมีจำนวนผู้ป่วยอาการหนักมากกว่าพื้นที่อื่น
นอกจากนี้ ผู้ป่วยในอู่ฮั่นยังต้องอยู่ในโรงพยาบาลนานกว่า เพราะเกณฑ์ให้ออกจากห้องพักฟื้นของอู่ฮั่นมีความเข้มงวดกว่าที่อื่น เนื่องจากเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของโรค โดยมีข้อกำหนดว่าด้วยการวินิจฉัยและการรักษาทางคลินิกแห่งชาติ ซึ่งระบุว่า ผู้ป่วยจะได้รับอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลเมื่อปราศจากอาการของโรค และมีผลการทดสอบกรดนิวคลีอิกเป็นลบ 2 ครั้ง
เจียวหย่าฮุย ระบุอีกว่า เจ้าหน้าที่ขอให้ผู้ป่วยในอู่ฮั่นพำนักอยู่ในโรงพยาบาลเพิ่มอีก 10-12 วัน หลังจากผ่านเกณฑ์ให้ออกจากห้องพักฟื้น
ทั้งนี้ รายงานประจำวันของคณะกรรมการฯ ระบุว่าจนถึงสิ้นวันจันทร์ (3 ก.พ.) จีนมีผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่ได้รับการปล่อยตัวจากโรงพยาบาลหลังพักฟื้นทั้งหมด 632 คน โดยในวันจันทร์วันเดียว มีผู้ป่วยที่ได้รับอนุญาตให้กลับบ้านหลังพักฟื้น 157 คน ในจำนวนนั้นเป็นผู้ป่วยในหูเป่ย 101 คน