วันนี้ (6 ก.พ.2563) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า วุฒิสมาชิกสหรัฐอเมริกาลงมติ 52 ต่อ 48 เสียง ให้โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา พ้นจากความผิดฐานใช้อำนาจโดยมิชอบ และลงมติ 53 ต่อ 47 เสียง ให้พ้นจากความผิดฐานขัดขวางการทำงานของสภาคองเกรส จากกรณีกดดันให้ยูเครนเปิดการสอบสวนบุตรชายของโจ ไบเดน คู่แข่งทางการเมืองคนสำคัญจากพรรคเดโมแครต
ชัยชนะในวุฒิสภาครั้งนี้ส่งผลให้ทรัมป์รอดตัวจากการถูกถอดออกจากตำแหน่งประธานาธิบดี เนื่องจากได้เสียงไม่ถึง 2 ใน 3 ของจำนวนวุฒิสมาชิกทั้งหมดที่มีอยู่ 100 คน
ขณะที่เคลลีแอน คอนเวย์ ที่ปรึกษาทำเนียบขาว ระบุหลังการลงมติ ว่า ผลการลงมติเป็นไปตามการคาดการณ์และผลที่เกิดขึ้นจะทำให้ผู้นำสหรัฐอเมริกา พ้นจากความผิดไปตลอดกาล นอกจากนี้ ยังได้ตั้งคำถามถึงกระบวนการถอดถอนผู้นำสหรัฐอเมริกา ที่ส่งผลให้เกิดความแตกแยกในประเทศด้วย
ด้านไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ระบุว่า พรรคเดโมแครตต้องการที่จะถอดถอนทรัมป์ เนื่องจากรู้ว่าไม่สามารถเอาชนะทรัมป์ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ในเดือน พ.ย.นี้ได้
ส่วนแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอเมริกา ระบุว่า รู้สึกประทับใจในถ้อยแถลงของมิตต์ รอมนีย์ วุฒิสมาชิกจากพรรครีพับลิกัน ที่แปรพักต์มาลงคะแนนให้พรรคเดโมแครต ว่า การลงมติในครั้งนี้เปิดโอกาสให้ทั้ง 2 พรรค มีส่วนร่วมแม้ว่าจะไม่สำเร็จก็ตาม
ก่อนหน้านี้ เพโลซีออกมาระบุถึงสาเหตุที่ตัดสินใจฉีกสุนทรพจน์ของทรัมป์ในระหว่างที่ทรัมป์กล่าวปิดการแถลงนโยบายประจำปี ว่า สุนทรพจน์ดังกล่าวเป็นคำประกาศที่เป็นเท็จ