วานนี้ (6 ก.พ.2563) นพ.ธีระวัฒน์ ศรีนัครินทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารโรงพยาบาลราชพฤกษ์ จ.ขอนแก่น พร้อมด้วย นพ.สมบัติ อาษารัฐ ศัลยแพทย์ แถลงกรณีการผ่าตัดแท่งเหล็กตัวต่อแม่เหล็กความยาว 15 เซนติเ้มตรในช่องท้องให้กับเด็กวัย 6 ขวบได้สำเร็จ
นพ.สมบัติ อาษารัฐ ศัลยแพทย์ที่ดูแลเด็กชาย 6 ขวบ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา มีผู้ปก ครองรายหนึ่งได้พาเด็กชายวัย 6 ขวบเข้ามาพบแพทย์ จากอาการปวดท้องในบางท่วงท่า เช่น เวลานอนคว่ำจะปวดท้องมาก แต่เมื่อลุกขึ้นนั่งก็จะหายปวด แต่เมื่อตรวจอาการเบื้องต้น ก็ไม่พบความผิดปกติ จึงเอ็กซเรย์ดูทำให้พบว่ามีแท่งเหล็กกลม กว้าง 3 เซนติเมตร ยาว 15 เซนติเมตร แต่ยังไม่ชัด เจนว่าเป็นแท่งเหล็กหรือวัตถุใด ทั้งนี้ผู้ปกครองดูจากฟิล์มแล้วให้ข้อมูลว่าน่าจะเป็นของเล่นตัวต่อเหล็กดูดเสริมพัฒนาการของเด็ก
ภาพ:เฟซบุ๊ก ฝ่ายข่าว สทท.ขอนแก่น
ทีมแพทย์ กล่าวอีกว่า เหล็กตัวต่อนี้ เข้าไปอยู่ในอวัยวะที่ลึกไม่สามารถที่จะนำออกมาได้ด้วยการส่องกล้อง แพทย์จึงผ่าตัด แพทย์ยังระบุอีกว่าโดยในขณะที่แพทย์ทำการผ่านั้นเหล็กดูดตัวนี้ก็ได้ดูดติดเครื่องมือแพทย์ออกมาอย่างง่ายทำให้การผ่าตัดผ่านไปด้วยดี ซึ่งขณะนี้เด็กชาย 6 ขวบรายนี้อาการปลอดภัยแล้ว
คาดว่าช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา เด็กจะทยอยกลืนแท่งเหล็กนี้เข้าไปก่อน 3 ชิ้น เพราะเหล็กเริ่มเปลี่ยนเป็นสีดำ และกลืนเข้าไปอีก 3 ชิ้น ทำให้เหล็กตัวต่อทั้งหมดไปเรียงกันในช่องท้องและลงไปอยู่ในลำไส้เล็ก
นพ.สมบัติ กล่าวอีกว่า เล่นเสริมพัฒนาการตัวนี้เป็นเหล็กดูดที่ดูดกันค่อนข้างแรง โดยในขณะที่แพทย์ทำการผ่านั้นเหล็กดูดตัวนี้ก็ได้ดูดติดเครื่องมือแพทย์ออกมาอย่างง่ายทำให้การผ่าตัดผ่านไปด้วยดี ซึ่งขณะนี้เด็กชาย 6 ขวบรายนี้อาการปลอดภัยแล้ว
ภาพ:เฟซบุ๊ก ฝ่ายข่าว สทท.ขอนแก่น
หลังการผ่าตัดสำเร็จแล้ว อาการเด็กปลอดภัยดี และพี่สาวของเด็กสารภาพกับพ่อว่า น้องเคยกลืนแท่งเหล็กนี้ให้ดูต่อหน้าถึง 2 ชิ้น แต่พี่สาวไม่กล้าบอกพ่อเพราะกลัวโดนดุ ก่อนจะมาสารภาพหลังจากที่น้องชายปวดท้องกระทั่งได้รับการผ่าตัด
นพ.ธีระวัฒน์ ฝากเตือนผู้ปกครองที่อยู่ในช่วงอายุ 1- 8 ขวบว่าให้ระมัดระวังในการเลือกซื้อของเล่นให้บุตรหลาน ซึ่งของเล่นชิ้นเล็กอาจจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ จึงควรให้บุตรหลานอยู่ในสายตาตลอดเวลาในขณะเล่น เพราะด้วยนิสัยของเด็กนั้นชอบกลืนสิ่งของที่มีขนาดเล็ก ซึ่งที่ผ่านมาพบเด็กเข้ามารับการรักษาด้วยการมีสิ่งแปลกปลอมในช่องท้องอยู่เป็นประจำ
ภาพ:เฟซบุ๊ก ฝ่ายข่าว สทท.ขอนแก่น