วันนี้ (27 ก.พ.2563) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้อภิปรายชี้แจง ตามที่นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส. อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อไทย ได้นำรูปไปเกี่ยวข้องกับการจัดหาเรือดำน้ำและรถถัง ซึ่งการจัดหานั้นตนคงไม่ได้เป็นคนจัดหา แต่เป็นความต้องการของเหล่าทัพที่จะเสนอมาว่ากองทัพเรือต้องการอะไร กองทัพบกต้องการอะไร แล้วจัดสรรคู่กับงบประมาณที่รัฐบาลจัดสรรให้ ฉะนั้นเรื่องการจัดซื้อเรือดำน้ำกับรถถัง ซึ่งเป็นการซื้อของจีนโดยทำระบบจีทูจี ตามรายละเอียดในส่วนนี้ ตนจะให้ รมช.กระทรวงกลาโหม เป็นผู้ชี้แจงรายละเอียดถึงการจัดซื้อยุทธโรกรณ์ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร ยังได้ชี้แจงกรณีโรฮีนจาลักลอบเข้าไทยว่า ไม่ใช่เป็นเหยื่อค้ามนุษย์ แต่เป็นพวกหลบหนีเข้าเมืองตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองปี 2522 ทั้งนี้รัฐบาลไทยก็ดูแลตามมนุษยธรรมที่สอดคล้องกับวิถีชีวิต ดังนั้นจุดหมายปลายทางที่โรฮินจาจะมานั้น ไม่ใช่ประเทศไทย แต่เขาต้องการไปประเทศที่ 3 เราก็สนับสนุนในเรื่องอาหารน้ำมันให้กับคนเหล่านี้ได้ไปประเทศที่เขาต้องการไป ซึ่งเป็นท่าทีของไทยต่อสถานการณ์ความขัดแย้งในรัฐยะไข่ เช่นเดียวกันรัฐบาลไทยให้การสนับสนุนการแก้ปัญหารากเหง้าที่ปัจจุบันรัฐบาลเมียนมาร์ดำเนินการอยู่อย่างเต็มที่ และเห็นด้วยกับการอพยพชาวโรฮินจาให้ไปสู่ถิ่นฐานด้วยความสมัครใจ
สำหรับการค้ามนุษย์ที่ตนดูแลตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นมาได้รับการจัดลำดับจากสื่อต่างชาติว่าดีขึ้น ส่วน ผู้กระทำความผิดและผู้ค้ามนุษย์โรฮินจารัฐบาลให้ความสำคัญเรื่องของการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด ไม่ว่าข้าราชการทหารตำรวจพลเรือนโดยการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังและเด็ดขาด ซึ่งที่ถูกดำเนินคดีและดำเนินการทางวินัยอย่างไม่ละเว้น ทั้งนี้แม้แต่ พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ อดีตรองผบช.ภาค 8 ที่หนีไปก็กลับมาสิครับกลับมาร้องเพื่อกลับเข้ารับราชการก็ไม่กลับมาเอง ไม่มีใครให้ไปก็หนีไปเอง
“บิ๊กป้อม “ยันรบ.ดูแลปัญหาโรฮีนจาเต็มที่ตามมนุษยธรรม สื่อต่างชาติยกลำดับการแก้ปัญหาค้ามนุษย์ไทยดีขึ้น ชี้ไม่มีใครทำ”พล.ต.ต.ปวีณ”หนีไปตปท. พร้อมท้ากลับมาพิสูจน์ความบริสุทธ์