วันนี้ (2 มี.ค.2563) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. ระบุว่า กรณีมีการเผยแพร่คลิปวิดีโอ “วินมอไซด์ทำร้ายร่างกาย Grabbike” เกิดเหตุบริเวณซอยสุขุมวิท 48 กรุงเทพมหานคร นั้น ได้รับรายงานจาก สน.คลองตันว่า วันนี้ เวลา 08.30 น. ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์แกร็บไบค์ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ เข้ามารับผู้โดยสารที่บริเวณ ซอยสุขุมวิท 48 คอนโด life แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กทม. ต่อมาได้มีผู้ขับรถจักรยานยนต์รับจ้างเบอร์ 26 (วินรถจักรยานยนต์รับจ้างปากซอยสุขุมวิท 48) ขับรถเข้ามาปาดหน้าขับขี่รถจักรยานยนต์แกร็บไบค์และแจ้งว่าไม่ให้มารับในนี้
จากนั้นได้มีการโต้เถียงและมีการทำร้ายร่างกาย ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์แกร็บไบค์และมีผู้ขับรถจักรยานยนต์รับจ้างอีก 2 คนที่เข้ามาร่วมทำร้ายร่างกาย โดยภายหลังเกิดเหตุผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์แกร็บไบค์ ได้มาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.คลองตัน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนได้ทำการตรวจสอบและพิสูจน์ทราบ ผู้ก่อเหตุทั้งหมดพร้อมนำตัวมาที่สถานีตำรวจนครบาลคลองตัน เพื่อสอบสวนถึงสาเหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้
รอง โฆษก ตร. กล่าวว่า เบื้องต้นทราบว่ากลุ่มผู้ต้องหาไม่พอใจคู่กรณีที่ขับรถจักรยานยนต์แกร็บไบค์รับลูกค้าตัดหน้า อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนได้ส่งตัวผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์แกร็บไบค์ ไปทำการรักษาตัวและชันสูตรบาดแผลการถูกทำร้าย พร้อมดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหาขับรถจักรยานยนต์รับจ้างเบอร์ ทั้ง 3 คน ในความผิดฐาน “ทำร้ายร่างกายผู้อื่นไม่ถึงกับเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจฯ” ซึ่งผู้เสียหายได้ยินยอมให้ดำเนินการเปรียบเทียบปรับผู้ต้องหาทั้ง 3 คน คนละ 1,000 บาท พร้อมกับทางผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ได้ชดใช้ค่าเสียหายและค่ารักษาพยาบาลเป็นเงิน 3,000 บาท
อย่างไรก็ตาม การขับ Grab เป็นการนำรถส่วนบุคคลมาให้บริการลักษณะรับจ้าง ใช้รถผิดประเภทถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ.2522 มาตรา 23/1 มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท และ ในกรณีผู้ขับขี่รถ ไม่มีใบขัขี่สาธารณะ มีโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท จำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการกวดขันจับกุมมาโดยตลอด หากแต่การทำร้ายร่างกายผู้อื่นฯ จะด้วยเหตุที่ไม่พอใจ รับลูกค้าตัดหน้าหรือมาแย่งลูกค้า ของกลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ รถยนต์รับจ้างสาธารณะ ย่อมเป็นความผิดทางอาญา มีโทษทั้งจำทั้งปรับ ควรหลีกเลี่ยงการกระทำนั้นเสีย แล้วไปพัฒนาการให้บริการต่อประชาชน ผู้รับบริการ ในด้านความปลอดภัยและความสะดวกสบาย จนได้รับการยอมรับและไว้วางใจดีกว่า
กทม. เตรียมลงดาบ ยึดเสื้อวิน 3 ปี
ด้าน ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า กรุงเทพมหานครในฐานะที่กำกับดูแลวินรถจักรยานยนต์รับจ้างสาธารณะ จะเสนอให้ใช้มาตรการยึดเสื้อวินต่อผู้ก่อเหตุ เนื่องจากเป็นการกระทำความผิดที่เข้าข่ายความประพฤติไม่เหมาะสมตามข้อ 13 แห่งประกาศคณะกรรมการประจำกรุงเทพมหานคร เรื่อง กำหนดสถานที่ตั้งวินและหลักเกณฑ์การออกหนังสือรับรองการใช้รถจักรยานยนต์สาธารณะในเขตกรุงเทพมหานคร พ.ศ.2563
โดยในวันพรุ่งนี้ (3 มี.ค.) กทม.จะเชิญคณะอนุกรรมการ 4 ฝ่ายประจำพื้นที่เขตคลองเตย ร่วมประชุม ณ สำนักงานเขตคลองเตย เพื่อดำเนินการสอบสวนและพิจารณาการลงโทษผู้ก่อเหตุทั้ง 3 คนตามมาตรการยึดเสื้อวินต่อไป
กทม.เข้าใจดีถึงปัญหาระหว่างผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างสาธารณะ กับผู้ให้บริการรับผู้โดยสารเอกชน ซึ่งทางกรมการขนส่งทางบกกำลังหาทางออกร่วมกันสำหรับทุกฝ่าย