ทดสอบหน้ากากอนามัย ส.ส.พปชร. "บาง-มีกลิ่นฉุน" เสี่ยงมะเร็ง

วันนี้ (4 มี.ค.2563) จากกรณี ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ คนหนึ่งแจกหน้ากากอนามัยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่เทศกิจ และประชาชนในพื้นที่ จำนวน 10,000 ชิ้น เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ล่าสุด รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้เผยแพร่ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก โดยนำหน้ากากอนามัยดังกล่าวมาตรวจสอบคุณภาพ 

ภาพ : Weerachai Phutdhawong

หลังวิเคราะห์ด้วยเทคนิค FT-IR-ATR เป็นผ้าสปันบอนด์ ที่เกิดจากเส้นใยสังเคราะห์ของโพลิเมอร์ ที่เป็น “Polypropylene ( PP )” ลักษณะทางกายภาพมีกลิ่นเหม็นพลาสติก มีขนาดบางมากๆ เส้นใยสีฟ้าเป็นการย้อมสีเพื่อให้ดูรู้สึกดี แต่ทั้ง 3 ชั้นบางมากและเป็นพอลิเมอร์ชนิดเดียวกัน

ภาพ : Weerachai Phutdhawong

 

ภาพ : Weerachai Phutdhawong

ที่สำคัญมีกลิ่นฉุน แตกยุ่ยได้ง่าย ซึ่งจะก่อให้เกิดฝุ่นละอองขนาดเล็กที่เรียกว่าไมโครพลาสติก หากสูดดมเข้าไปในร่างกาย มีความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง หากนำไปล้างน้ำและไหลลงไปในระบบนิเวศ เช่น แม่น้ำลำคลอง สัตว์น้ำสัตว์ทะเลจะได้รับไมโครพลาสติกพวกนี้กลับเข้ามาสู่ระบบและมนุษย์ก็ไปกินสัตว์น้ำเหล่านี้ก็จะเข้ามาสู่ร่างกายได้เช่นกัน ในระยะยาวพลาสติกเหล่านี้ย่อยสลายได้ยากมาก และเป็นกลุ่มเสี่ยงชื่งมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แนะนำให้ส่งคืน

ภาพ : Weerachai Phutdhawong

 

ภาพ : Weerachai Phutdhawong

 

ต่อมา รศ.ดร.วีรชัย ได้ชี้แจงยืนยันว่า การตรวจสอบหน้ากากอนามัยในครั้งนี้ไม่ได้มีอคติกับ ส.ส.คนใด อีกทั้ง ส.ส.พลังประชารัฐคนดังกล่าวก็มีเจตนาดี ซึ่งถือว่าเป็นผู้ได้รับความเสียหายจากการซื้อหน้ากากอนามัย โดยต้องให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเข้ามาช่วยตรวจสอบเพิ่มเติมเพื่อประโยชน์ของประชาชน

เจตนาท่านดีครับ ขอยืนยันอีกครั้งนะครับว่าท่านเป็นเหยื่อ และต้องให้หน่วยงานที่รับผิดชอบมาช่วยกันตรวจสอบครับ ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก

จี้ ส.ส.พปชร.เร่งเอาผิดร้านค้าหน้ากาก

ขณะที่ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า จากกรณี ส.ส.พรรคพลังประชารัฐนำมาแจกประชาชนแต่เมื่อตรวจสอบคุณภาพแล้วพบว่าเป็นสินค้าไม่ปลอดภัย กรณีที่เกิดขึ้น ส.ส.คนดังกล่าวต้องรีบเรียกคืนหน้ากากทั้ง 10,000 ชิ้นนำกลับมาทำลายให้หมด และจะต้องเร่งรีบกลับไปดำเนินการเอาผิดกับเจ้าของสินค้าหรือผู้ที่ขายมาให้โดยเร็ว เพราะถือได้ว่าเป็น “สินค้าที่ไม่ปลอดภัย” เพราะผู้ที่ได้รับแจกนำไปใช้แล้วหากเกิดความเสียหายภายใน 3 ปี สามารถเรียกค่าเสียหายในทางละเมิดได้ ตาม พ.ร.บ.ความรับผิดต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นจากสินค้าที่ไม่ปลอดภัย 2551

ภาพ : ศรีสุวรรณ จรรยา

นอกจากนั้น ยังมีความผิดในทางอาญาด้วย ในข้อหากระทำการด้วยประการใดๆ ให้ผู้ซื้อหลงเชื่อในแหล่งกำเนิด สภาพคุณภาพหรือปริมาณแห่งของนั้นอันเป็นเท็จต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่หาก ส.ส.คนดังกล่าวไม่ดำเนินการใด ๆ ก็อาจเข้าข่ายความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตาม ป.อ.157 และการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรม 2561 ได้

นอกจากนั้น นายกรัฐมนตรีในฐานะเป็นผู้รักษาการตาม พ.ร.บ.สินค้าที่ไม่ปลอดภัย ต้องเรียก ส.ส.คนดังกล่าวมาภาคทัณฑ์หรือลงโทษ เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างในการทำงานเกินหน้าที่จนอาจก่อให้เกิดความเดือดร้อนและเสียหายต่อประชาชนได้ นายศรีสุวรรณ กล่าวในที่สุด