ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

คมนาคมสั่งรับมือคนไทยกลับจากเกาหลีใต้ ส่งถึงภูมิลำเนา

เศรษฐกิจ
4 มี.ค. 63
10:55
1,328
Logo Thai PBS
คมนาคมสั่งรับมือคนไทยกลับจากเกาหลีใต้ ส่งถึงภูมิลำเนา
“คมนาคม” เตรียมรับมือคนไทยจากเกาหลีใต้กลับไทย สั่ง ทอท. ตรวจเข้มการคัดกรอง COVID-19 พร้อมจัดรถตู้-รถทัวร์ส่งกลับภูมิลำเนา ก่อนกักตัว 14 วันในพื้นที่รัฐกำหนด และพร้อมคุมผู้โดยสารจาก 2 เมือง “แทกู-คย็องซังเหนือ” ต้องโดนกักตัว 14 วันในพื้นที่รัฐกำหนด

วันนี้ (4 มี.ค. 2563) นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมเตรียมมาตรการเร่งด่วนเพื่อรองรับแรงงานไทยที่เดินทางกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัส COVID-19 โดยมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานว่า กระทรวงคมนาคมได้เสนอให้ที่ประชุมพิจารณาขั้นตอนการเตรียมการรองรับผู้โดยสารที่เดินทางมาจากสาธารณรัฐเกาหลีใต้

 

 

ซึ่งบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ได้จัดหลุมจอดแยก ณ ท่าอากาศยาน ที่เที่ยวบินมาจากสาธารณรัฐเกาหลี เพื่อให้ผู้โดยสารขาเข้า ผ่านการคัดกรองจากเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ณ ด่านควบคุมโรค ในบริเวณที่จัดไว้สาหรับเป็นพื้นที่คัดกรอง ซึ่ง ทอท. ได้จัดเครื่องเทอร์โมสแกน (Thermoscan) เพื่อคัดกรองผู้โดยสาร 3 จุด คือ บริเวณหน้า Gate, หน้าด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) และด่านศุลกากร

กรณีพบผู้โดยสารมีอาการป่วย มีไข้ กระทรวงสาธารณสุขจะดำเนินการต่อผู้ป่วยตามขั้นตอนวิธีปฏิบัติที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ส่วนกรณีผู้โดยสารไม่มีอาการป่วย ไม่มีไข้ กระทรวงคมนาคม โดยกรมการขนส่งทางบก และบริษัท ขนส่ง จำกัด จะจัดรถส่งผู้โดยสารกลับภูมิลำเนา เมื่อถึงภูมิลำเนา จะมอบหมายให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือผู้นำชุมชน ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงมหาดไทย และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เฝ้าระวัง หรือ ให้พักอยู่ในสถานที่ที่รัฐบาลกำหนด เพื่อกักกันให้อยู่ภายในที่พัก 14 วัน

 

 

นอกจากนี้ ทอท.ได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉิน เพื่อประสานงานและแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างหน่วยงานต่างๆ เช่น ตม. ด่านควบคุมโรค โดยการใช้ประโยชน์จากระบบตรวจสอบและคัดกรองผู้โดยสารล่วงหน้า (APPS) ในการเชื่อมข้อมูลพื้นฐาน และข้อมูลการเดินทางของผู้โดยสาร เพื่อที่จะทำให้ระบบการคัดกรองมีความครบถ้วนและมีประสิทธิภาพ

ตลอดจนหาทางแก้ไขปัญหาที่เกิดจากปฏิบัติหน้าในแต่ละวัน กระทรวงสาธารณสุขอาจนำข้อมูลจากระบบ APPS อาทิ ชื่อ-สกุล สนามบินต้นทาง สนามบินที่แวะเปลี่ยนเครื่อง หมายเลขที่นั่งของผู้โดยสาร หมายเลขโทรศัพท์มือถือ หรืออีเมลที่ติดต่อกับผู้โดยสาร ซึ่งข้อมูลดังกล่าว มีอยู่ในระบบ APPS และระบบ Passenger Name Record (PNR) มาใช้ในการสกัดกั้นการแพร่ระบาด และการติดตามผู้ที่มีความเสี่ยงสูง

กระทรวงคมนาคมยังได้มีข้อเสนอแนะเพิ่มเติมเสนอในที่ประชุมโดยการให้กักตัวผู้ที่จะเดินทางกลับไว้ที่เกาหลี เป็นเวลา 14 วัน เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ COVID-19 ในประเทศไทย แต่ยอมรับว่าในเรื่องนี้ มีความเป็นไปได้ยาก เนื่องจากแรงงานดังกล่าว เป็นแรงงานผิดกฎหมาย ซึ่งเกาหลีต้องการส่งกลับไทยทันที

 

 

ขณะเดียวกัน จะจัดเครื่องบินแบบเหมาลำ (Charter Flight) โดยขอความร่วมมือจากกระทรวงการต่างประเทศ ประสานสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล รวบรวมรายชื่อผู้โดยสารพร้อมจุดหมายปลายทางในประเทศไทย เพื่อส่งกลับภูมิภาคต่างๆ ซึ่งจะเป็นป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ได้อีกระดับหนึ่ง เนื่องจากสามารถกำหนดเวลาในการบินเข้าไทยในช่วงเวลาที่มีปริมาณผู้โดยสารไม่มากนัก


ทั้งนี้ มีท่าอากาศยานที่อยู่ในการกำกับดูแลของ ทอท. และกรมท่าอากาศยาน ที่พร้อมรองรับผู้โดยสารดังนี้ ภาคเหนือ คือ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ท่าอากาศยานพิษณุโลก ในส่วนของภาคกลาง คือ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานอู่ตะเภา ขณะที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คือ ท่าอากาศยานขอนแก่น ท่าอากาศยานอุดรธานี ท่าอากาศยานอุบลราชธานี และภาคใต้ คือ ท่าอากาศยานหาดใหญ่ ท่าอากาศยานภูเก็ต ท่าอากาศยานกระบี่ ท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานี โดยขอความร่วมมือกระทรวงสาธารณสุขในการคัดกรองผู้โดยสารที่ท่าอากาศยาน

นายศักดิ์สยามกล่าวต่อว่า ในกรณีผู้โดยสารที่ไม่มีอาการป่วยนั้น กรมการขนส่งทางบก และบริษัท ขนส่ง จำกัด จะจัดรถเพื่อส่งกลับภูมิลำเนาในระยะทางที่ไม่ไกลมากนัก พร้อมทั้งมอบหมายให้จังหวัดลงทะเบียนรายชื่อบุคคลเหล่านั้น เพื่อที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) สามารถติดตามบุคคลดังกล่าวว่า ได้มีการกักกันตนเองภายในที่พัก 14 วันหรือไม่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง