ตม.จับทัวร์กัมพูชา ลอยแพนักท่องเที่ยว

วันนี้ (6 มี.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจชุดสืบสวน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 ได้รับการร้องเรียนจากผู้เสียหายหลังซื้อแพ็คเกจทัวร์แหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่ประเทศกัมพูชา โดยผ่านนายหน้าชาวกัมพูชาย่านประตูน้ำ ซึ่งในเพจเกจระบุว่ามีบริการทั้งรถยนต์ ที่พัก และอาหารอย่างดี แต่เมื่อเดินทางไปถึงกลับไม่ตรงกันตามที่ตกลงกันไว้ ขณะเดียวกันในช่วงเดินทางกลับมีชาวกัมพูชาเข้ามาเที่ยวในที่ท่องเที่ยวสำคัญในไทย แต่เมื่อมาถึงท่ารถก็ถูกลอยแพ ไม่มีคนพาไปท่องเที่ยวตามที่ตกลงไว้ 

ตำรวจชุดจับกุมเฝ้าติดตามบริเวณซอยเพชรบุรี 15 ที่เป็นท่ารถตู้กรุงเทพฯ - สระแก้ว พบว่า มีร้าน 3 แห่ง เปิดห้องตั้งโต๊ะรับบริการจัดทัวร์ท่องเที่ยวประเทศกัมพูชาและในไทย ตำรวจจึงเข้าไปตรวจสอบเอกสารประจำตัวของผู้ดูแล ปรากฏว่ามีเพียงหนังสือเดินทาง แต่ไม่มีใบอนุญาตทำงาน ซึ่งตำรวจเชื่อว่า มีส่วนรู้เห็นกับขบวนการจัดทัวร์ดังกล่าว จึงดำเนินคดีและแจ้งข้อกล่าวหาเป็นคนต่างด้าวโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน

ผู้ดูแลร้าน อ้างว่า มีหน้าที่เพียงขายตั๋วและจัดผู้โดยสารขึ้นรถตู้ หากต้องการล่ามแปลภาษาบางครั้งก็นั่งรถไปกับผู้โดยสารด้วย แต่ไม่ทราบเรื่องการขายทัวร์ท่องเที่ยว

จับ 42 แรงงานข้ามชาติผิดกฎหมาย

ขณะเดียวกันตำรวจยังได้รับการร้องเรียนจากประชาชน ว่า มีแรงงานข้ามชาติทำงานอยู่ในตลาดนัดรถไฟศรีนครินทร์โดยผิดกฎหมาย จึงได้วางแผนเข้าตรวจสอบโดยแบ่งกำลังเข้าไปภายในตลาดพื้นที่กว่า 60 ไร่ และเมื่อเข้าไปตรวจสอบ พบแรงงานข้ามชาติมาอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต จำนวน 9 คน ทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต 20 คน และทำงานนอกเหนือจากสิทธิที่จะทำได้ 13 คน รวมผู้ต้องหา 42 คน และยังพบผู้ต้องหาคนไทยที่มีหมายจับข้อหาข่มขืนผู้อื่นฯ ของศาลจังหวัดสุรินทร์อีก 1 คน

ขณะที่ พ.ต.อ.ภัคพงษ์ สายอุบล รองผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 เปิดเผยว่า ปัจจุบันพบกลุ่มแรงงานข้ามชาติเข้ามาทำงานในไทยมากขึ้น ถึงแม้เข้ามาก่อเหตุเพียงกลุ่มเล็ก ๆ แต่เป็นการลักลอบเข้ามาทำงาน และไม่มีใบอนุญาต หรือบางคนทำงานนอกเหนือจากสิทธิ สร้างความเสียหายระบบการจัดเก็บภาษี และแย่งอาชีพคนไทย

อย่างไรก็ตาม การปฏิบัติการเข้าจับกุมในบางครั้งเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากกลุ่มบุคคลอาศัยอยู่รวมกัน จึงต้องอาศัยเครื่องมือพิเศษที่สามารถบัญชาการควบคุมสั่งการได้ เพื่อป้องกันการหลบหนี