"เสรีพิศุทธ์" ไม่กลัว COVID-19 แต่ห่วงประชาชนที่เดือดร้อน

การเมือง
18 มี.ค. 63
11:27
534
Logo Thai PBS
"เสรีพิศุทธ์" ไม่กลัว COVID-19 แต่ห่วงประชาชนที่เดือดร้อน
ประธานคณะกรรมาธิการ ป.ป.ช. เดินหน้าประชุมคณะกรรมาธิการฯ เพื่อตรวจสอบการส่งออกหน้ากากอนามัย พร้อมขอให้กรรมาธิการเข้าร่วมประชุมตามปกติ ขณะเดียวกันประกาศอย่ากลัวเเชื้่อไวรัส "โควิด-19" ส่วนมาตรการรับมือเป็นหน้าที่ของนายกฯ หากไม่ไหวควรลาออก

วันนี้ (18 มี.ค.2563) พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติชอบ สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมาธิการฯ ยังคงประชุมตามปกติ เว้นแต่จะมีองค์ประชุมไม่ครบตามข้อบังคับการประชุมสภาฯ โดยวันนี้จะมีการพิจารณาเรื่องการกักตุนหน้ากากอนามัยเร่งด่วน และจะรีบขอมติที่ประชุมว่าจะเชิญบุคคลใดมาชี้แจงบ้าง ทั้งนี้การประชุมคณะกรรมาธิการฯ ขอให้เป็นเรื่องของคณะกรรมาธิการพิจารณากันเองว่าหยุดการประชุมหรือไม่

ผมผ่านชีวิตมามากแล้ว อย่าว่าแต่โควิด-19 เลย ดงกระสุน ดงกระเบิดสมัยปราบปรามผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ในเทือกเขาภูพาน ก็ฝ่ามาเยอะ ตอนนี้อายุ 70 ปีแล้ว ใกล้จะตายแล้ว จะมานั่งกลัวตายอะไรอีก เมื่อชั่งน้ำหนักแล้ว เห็นว่าเรื่องความเดือดร้อนของประชาชนที่ต้องการพึ่งคณะกรรมาธิการฯ มีมาก แล้วจะมาเกรงกลัวเรื่องเหล่านี้หรือ

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า สภาฯ มีการป้องกัน ทั้งการคัดกรองบุคคล และมีการทำความสะอาด จึงขอร้องคณะกรรมาธิการฯ อย่าไปกังวลโควิด-19 ให้มาก และที่นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคพลังประชารัฐ บอกไปตรวจโควิด 19 มาแล้ว และจะนั่งใกล้ ๆ ตนก็ยังไม่ใส่ใจอะไรเลย ถ้ามีแต่ความกลัวอย่าเป็นเลยผู้แทน ต้องกล้าทำในสิ่งที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์ต่อประชาชน

มาตรการรับมือโควิด-19 ควรเป็นหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี โดยประสานกับจังหวัด และพิจารณาข้อมูลแต่ละจังหวัดว่าจังหวัดควรปิดหรือไม่ปิด เพราะถ้าไปให้อำนาจจังหวัดใดจังหวัดหนึ่งพิจารณากันไปแล้ว จะทำให้การคิดการตัดสินใจของแต่ละจังหวัดจะอยู่บนพื้นฐานที่แตกต่างกัน ขาดมาตรฐาน การไปปิดจังหวัดและทำอะไรก็ตาม

บางอย่างก็ไม่แน่อาจจะอยู่ใต้อิทธิพลของผู้ทรงอิทธิพลภายในจังหวัดนั้น และจะทำให้ประชาชนที่อยู่ในจังหวัดเกิดความเดือดร้อน สมมติผู้ทรงอิทธิพลประกอบธุรกิจ ก็จะอาศัยเวลานี้ตักตวงผลประโยชน์ของตนเอง เหมือนกับการกักตุนหน้ากากอนามัยเพื่อประโยชน์ของคนบางกลุ่ม อย่าคิดว่าทุกคนอยู่บนพื้นฐานความสุจริตอย่างเดียว อาจมีอย่างอื่นแอบแฝง ต้องคิดให้รอบคอบ

หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ถ้าบอกว่าตัวเองเหนื่อยก็ขอให้ลาออกไป ทั้งนี้ได้ติดตามอ่านข่าวก็พบว่าการทำงานของนายกรัฐมนตรีล้มเหลว อย่างเมื่อไม่นานมานี้ที่ออกมาแถลงก็ไม่มีสาระอะไรเลย เพราะควรแถลงให้ประชาชนทราบข้อเท็จจริงเพื่อประกอบการตัดสินใจในการดำเนินชีวิต

ส่วนความเป็นไปได้ในการเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญเพื่อเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาโควิด-19 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า การประชุมวิสามัญต้องอาศัยเสียง 1 ใน 3 ของทั้งสองสภา ฝ่ายค้านขอเปิดฝ่ายเดียวไม่ได้เพราะเสียงไม่พอ จึงควรเป็นหน้าที่ของรัฐบาลในฐานะฝ่ายคุมเสียงข้างมาก ในการยื่นญัตติเพื่อเปิดประชุมวิสามัญ

ส่วนจะควรเลื่อนการเปิดประชุมสมัยสามัญในเดือนพฤษภาคมออกไปหรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของสภาฯ ที่ต้องดำเนินการตามกฎหมาย อย่ามากลัวอะไรเกินกว่าเหตุ ถ้าทุกคนกลัวเกินกว่าเหตุแล้วประเทศจะไม่เดินหน้าหากตนเองเป็นประธาน ก็จะเสนอเปิดประชุมปกติตามรัฐธรรมนูญ ใครจะขาดประชุมและองค์ประชุมก็อีกเรื่องหนึ่ง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง