เทมาเส็กขายหุ้นชินคอร์ป
บริษัท ซีดาร์ โฮลดิ้ง ซึ่งเป็นบริษัทในเครือเทมาเส็กประเทศสิงคโปร์ ได้ขายหุ้นที่ถือในบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) จำนวน 253 ล้านหุ้นหรือร้อยละ 9 ราคา 35.50 -37.25 บาท คิดเป็นเงิน 306 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 9,000 ล้านบาทเศษ ทำให้ บริษัท ซีดาร์มีสัดส่วนการถือหุ้นในชินคอร์ปเหลือร้อยละ 46.44 จากเดิม 54.42 ส่วน แอสเพน โฮลดิ้ง ซึ่งเป็นบริษัทในเครือเทมาเส็กเช่นกันยังคงถือหุ้นในชินคอร์ปร้อยละ 41.67
ด้านนายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ เชื่อว่าการขายหุ้นครั้งนี้มีเหตุผลที่เป็นไปได้หลายทาง ตั้งแต่ต้องการให้ปริมาณหุ้นหมุนเวียนตามที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยกำหนดที่ร้อยละ 15 ขึ้นไป เพื่อให้นักลงทุนสามารถซื้อขายได้อย่างเสรี หรือ ฟรีโฟลท เนื่องจากที่ผ่านมาปริมาณหุ้นชินคอร์ปมีการซื้อขายน้อยมาก
นอกจากนี้ราคาหุ้นล่าสุดสามารถขายทำกำไรได้แล้วเมื่อเทียบกับเมื่อกับช่วงที่ซื้อจากบริษัทในกลุ่มชินคอร์ปในเดือนมกราคม 2549 ที่ราคาหุ้นละ 49 บาท จากนั้นลดลงต่ำสุดที่ 15 บาท และเคลื่อนไหวที่ราคา 25-35 บาทนานถึง 2 ปี ก่อนปรับขึ้นเป็น 40 บาทในปัจจุบัน ขณะที่เงินบาทเมื่อแรกปี 2549 อยู่ที่ 39 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ เทียบกับปัจจุบันไม่ถึง 30 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ ทำให้สามารถทำกำไรได้ในขณะนี้
อีกทั้งยังมีความเป็นไปได้ที่ผู้ถือหุ้นรายใหม่เช่นสถาบัน รวมไปถึงกลุ่มใกล้ชิดผู้ถือหุ้นเดิมคือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่อาจสนใจเข้ามาลงทุนในหุ้นตัวนี้ เนื่องอุตสาหกรรมโทรคมนาคมของไทยยังมีอนาคตที่ดี จากอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มดีขึ้นในอนาคต