ไทยพบป่วย COVID-19 เพิ่มอีก 50 คน รวมเด็กวัย 6 เดือน

อธิบดีกรมควบคุมโรค เผยวันนี้ (20 มี.ค) พบผู้ป่วย COVID-19 เพิ่มอีก 50 คน ส่วนใหญ่ยังเป็นกลุ่มเดิมที่เกี่ยวข้องกับสนามมวยและสถานบันเทิง นอกจากนี้ยังมีเด็กวัย 6 เดือนติดเชื้อเป็นคนแรกของประเทศ

วันนี้ (20 มี.ค.2563) กระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวความคืบหน้าสถานการณ์ COVID-19 ในประเทศไทย โดย นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันเพิ่มอีก 50 คน จำแนกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่ม 1 เกี่ยวข้องกับสถานที่พบก่อนหน้านี้ จำนวน 41 คน ประกอบด้วย สนามมวย 18 คน กทม.นครสวรรค์ เชียงใหม่ นครนายก สมุทรปราการ โคราช ส่วนใหญ่เป็นผู้ชม เซียนมวย

ถัดมาเกี่ยวข้องกับสถานบันเทิงย่านทองหล่อ รามคำแหง 5 คน เป็นพนักงานและคนเที่ยว ส่วนคนที่สัมผัสกับผู้ป่วยที่รายงานไปก่อนหน้านี้ 12 คน เป็นผู้สูงอายุ นักศึกษา แม่บ้าน ตำรวจ อาชีพอิสระ ค้าขาย รวมถึงเด็ก 6 เดือน 1 คน และผู้เข้าร่วมพิธีทางศาสนาที่ประเทศมาเลเซียอีก 6 คน จ.ปัตตานี สงขลา

ผู้ป่วยที่เป็นเด็กเล็ก 6 เดือน มีวิธีการดูแลรักษาที่เป็นมาตรฐานอยู่แล้ว ซึ่งกลุ่มเปราะบาง เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ คนมีโรคประจำตัว หากไม่จำเป็นควรงดออกนอกบ้าน ส่วนผู้ร่วมอาศัยในบ้านต้องล้างมือทุกครั้งเมื่อเข้าบ้าน และแยกสำรับอาหาร

นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค

ส่วนกลุ่มที่ 2 เป็นผู้ป่วยรายใหม่ มีจำนวน 9 คน ซึ่งกลุ่มหลักยังคงเป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ โดยเป็นคนไทย 2 คนกลับจากอังกกฤษ ซึ่งเป็นนักศึกษาและพนักงานราชการ ที่เหลือเป็นชาวต่างชาติ 2 คน และยังมีผู้ป่วยที่ทำงานในพื้นที่แออัด 2 คนเป็นไกด์กับ รปภ. นอกจากนี้มีผู้ป่วยอีก 3 คนรอผลสอบสวนเพิ่มเติม

ภาพรวมสถานการณ์ผู้ป่วยสะสม 322 คน จำนวนนี้เป็นกลุ่มสนามมวย 76 คน สถานบันเทิง 62 คน ส่วนผู้ป่วยกลับบ้านแล้ว 43 คน รักษาตัวโรงพยาบาล 278 คน และเสียชีวิต 1 คน โดยผู้อยู่ในพื้นที่เสี่ยงทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ส่วนใหญ่เชื่อมโยงสนามมวยและสถานบันเทิง จึงขอให้กักตัวที่บ้าน 14 วัน เพื่อเฝ้าระวังอาการและอย่าแพร่โรคกับผู้อื่น

อธิบดีกรมควบคุมโรค ยังกล่าวถึงความเสี่ยงในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดว่ามีความแตกต่างกันมาก ส่วนใหญ่การแพร่ระบาดอยู่ในกรุงเทพฯ ส่วนต่างจังหวัดเป็นผู้สัมผัสจากสนามมวย เป็นต้น ยกเว้นพื้นที่ภาคใต้ที่เป็นการร่วมพิธีทางศาสนาที่มาเลเซีย ซึ่งมีมาตรการชัดเจนว่าให้ปิดสถานที่เสี่ยงแพร่ระบาด และขอให้ประชาชนรู้จักป้องกันตัวเอง ไม่ควรใกล้ชิดผู้อื่น แยกของใช้ งดเดินทางโดยไม่จำเป็น หากป่วยต้องรับผิดชอบตนเอง ครอบครัวและสังคม แต่หากต้องเดินทางไปสถานพยาบาลให้ประสานล้วงหน้า ป้องกันการแพร่กระจายโรคไปยังผู้ป่วยคนอื่น

นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข

เตรียมพร้อมมากกว่า 2,000 เตียงรองรับผู้ป่วย

ขณะที่นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ระบุว่า มีการเตรียมความพร้อมโรงพยาบาลในเครือข่ายทั้ง กทม. เอกชน โดยมีเตียงรองรับ 1,600 เตียง และสำรองสถานพยาบาลพิเศษ ได้ประสานผู้ประกอบการโรงแรม 450-500 เตียง คาดว่าไม่เกินสัปดาห์หน้าจะย้ายผู้ป่วยไปจุดดังกล่าว ซึ่งเป็นกลุ่มที่อาการไม่รุนแรง

ไม่อยากให้ตื่นตระหนก แต่เราประมาทไม่ได้ ขอให้ป้องกันตัวเองเสมอเมื่อไปในสถานที่ชุมชน เพราะมีบางส่วนเป็นพาหะโรคแม้ไม่แสดงอาการ เชื้อไม่ได้อยู่ที่สนามมวยแล้ว แต่เดินทางไปกับคน จึงจำเป็นต้องไม่ประมาท

ด้าน นพ.สุกิจ ศรีทิพยวรรณ ตัวแทน กทม. กล่าวว่า กทม.เตรียมความพร้อมและให้ความร่วมมือกับทุกภาคส่วน โดยโรงพยาบาลผู้สูงอายุบางขุนเทียน ยังไม่ได้เปิดใช้งาน และจะจัดเป็นจุดรับผู้ป่วยยืนยันที่อาการไม่รุนแรง เฟสแรก 103 เตียง ในจำนวนนี้เป็นห้องแยก 39 ห้อง

ต้องการให้ประชาชนตื่นตัว ไม่ใช่ตื่นกลัว โดยต้องมีจิตสำนึกรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งความร่วมมือเป็นปัจจัยแห่งความสำเร็จ

นพ.สุกิจ ศรีทิพยวรรณ

นอกจากนี้เครือข่ายโรงเรียนแพทย์มีเตียงรองรับ 300 เตียง ใน 8 โรงพยาบาลพื้นที่ กทม.และปริมณฑล เช่น รอยต่อ จ.นครปฐม ได้จัดเตรียมศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก ขอให้สบายใจว่าเป็นความร่วมมือกัน ไม่ใช่หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง

ส่วนยาที่ใช้รักษานั้น นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ขณะนี้ "ยาฟาวิพิราเวียร์" ที่ใช้ในการรักษา นำเข้ามาแล้ว 40,000 เม็ด กระจายไปแล้วทั่วประเทศ พร้อมออกคู่มือการใช้ยา โดย 80% ของผู้ป่วยไม่ต้องใช้ยา นอกจากอาการปานกลางแล้วแย่ลง หรือกลุ่มอาการหนัก ซึ่งขณะนี้ยังไม่การันตีว่ารักษาได้ทุกคน เป็นการประคองอาการเท่านั้น แต่ภูมิต้านทานสำคัญที่สุด