วันนี้ (29 มี.ค.2563) เฟซบุ๊กเพจ กองปราบปราม เผยแพร่ข้อความเตือนว่า แอลกอฮอล์สำหรับฆ่าเชื้อนั้น ต้องมีความเข้มข้นมากกว่า 70% จึงจะสามารถฆ่าเชื้อได้ และต้องเป็นเอทิลแอลกอฮอล์ ไม่ใช่เมทิลแอลกอฮอล์ โดยความแตกต่าง คือ
เอทิลแอลกอฮอล์ : ใช้ทำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาสำหรับเช็ดทำความสะอาดแผล (ห้ามรับประทานเพราะในน้ำยาล้างแผล จะใส่สีไว้เพื่อป้องกันการนำไปรับประทาน) ใช้ผลิตเครื่องสำอาง ความเป็นพิษต่อร่างกายคือ โรคพิษสุราเรื้อรังและตับอักเสบ
เมทิลแอลกอฮอล์ : มีกลิ่นฉุนกว่า มักใช้เป็นตัวทำละลาย เช่น ใช้ผสมในทินเนอร์ มีความเป็นพิษมาก สามารถดูดซึมเข้าทางผิวหนังและลมหายใจ ผู้ที่สูดดมเข้าไปจะเกิดอาการระคายเคืองต่อทางเดินหายใจ ทำให้หลอดลมอักเสบ หลอดคออักเสบ เยื่อบุตาระคายเคือง การมองเห็นจะผิดปกติจนอาจถึงขั้นตาบอดได้ หากดื่มเข้าไปทำให้ไตอักเสบ กล้ามเนื้อตับตาย หรือโลหิตเป็นพิษ และอันตรายถึงขั้นเสียชีวิต
ทั้งนี้ หากนำเมทิลแอลกอฮอล์มาใช้แทนเอทิลแอลกอฮอล์จะมีความอันตรายกว่ามาก โดยหากร้านหรือผู้ผลิตใด นำเมทิลแอลกอฮอล์มาหลอกขายเพื่อนำไปใช้ทำความสะอาดร่างกาย อุปกรณ์เครื่องใช้ มีโทษจำคุกสูงสุด 5 ปี หรือปรับสูงสุด 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม พ.ร.บ.เครื่องสำอาง และอาจเข้าข่ายมีความผิดประมวลกฎหมายอาญา
และหากเป็นร้านค้าออนไลน์ยังอาจเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 14 พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2560 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ