วันนี้ (12 เม.ย.2563) นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค ระบุว่า สาธารสุขจังหวัดภูเก็ตร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ มีการตรวจค้นหาผู้ป่วยรายใหม่เชิงรุกในชุมชน โดยมุ่งไปในพื้นที่ที่เคยมีรายงานพบผู้ป่วยก่อนหน้า หรือผู้ป่วยที่มีประวัติเกี่ยวข้อง เช่น สัมผัสผู้ป่วยยืนยันมาก่อน หรือทำงานอาชีพบริการที่มีโอกาสพบนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก และเก็บข้อมูลมาอย่างต่อเนื่อง
ภาพ : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต
หลังการตรวจค้นหาเชิงรุก พบว่า ในกลุ่มเสี่ยงพบผู้ติดเชื้อถึง ร้อยละ 9 แต่เมื่อไปตรวจคนที่มีอาการป่วย แต่ไม่มีประวัติเสี่ยง อัตราการพบเชื้ออยู่ที่ ร้อยละ 3.9 ส่วนประชาชนกลุ่มเสี่ยงน้อยหรือประชาชนทั่วไป เป็นการคัดกรองในวงกว้างจำนวนกว่า 2,000 คน มีอัตราการพบเชื้อเพียงร้อยละ 1.1 เท่านั้น
สแกนพื้นที่ พบระบาดจำกัดบางจุดเท่านั้น
จากการดำเนินการในพื้นที่นช่วงที่ผ่านมา โดยตรวจแล้วกว่า 3,000 คน จะพบว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดนั้นจำกัดอยู่ในบางจุด เช่น พื้นที่ที่พบผู้ป่วยก่อนหน้านี้ อย่างบริเวณป่าตอง
ภาพ : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต
ส่วนบริเวณอื่นๆ ที่ห่างออกมาจะพบผู้ติดเชื้อได้น้อย ซึ่งการตรวจลักษณะนี้ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถพบผู้ป่วยในระยะแรก และนำเข้าสู่การกักกันเพื่อให้อยู่ในพื้นที่ที่ไม่แพร่เชื้อจนครบ 14 วัน และลดโอกาสการแพร่เชื้อในประชาชนทั่วไปด้วย
เมื่อมีการดำเนินการในเชิงรุกจะช่วยให้ควบคุมสถานการณ์ได้ดีขึ้น โดยในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ประเมินว่าสถานการณ์จำนวนผู้ป่วยต่อจากนี้จะลดลงอย่างต่อเนื่อง
ผู้ป่วยยืนยันลดลงต่อเนื่อง จากท็อป 5 ของไทย
นพ.โสภณ ระบุอีกว่า ก่อนหน้านี้ จ.ภูเก็ต มีรายงานผู้ป่วยติดอันดับต้นๆ ท็อป 5 ของประเทศ โดยมีผู้ป่วยสะสมแล้วประมาณ 170 คน คิดเป็นอัตราป่วยมากที่สุดในประเทศ เนื่องจากมีจำนวนประชากรน้อยกว่า กทม.และนนทบุรี แต่ขณะนี้สถานการณ์ใน จ.ภูเก็ต ถือว่าอยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้แล้ว
ทั้งนี้ ข้อเสนอจากพื้นที่ จ.ภูเก็ต จึงได้เน้นย้ำเรื่องการตรวจคัดกรองว่าควรตรวจคัดกรองกับกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง เพื่อจะได้พบผู้ป่วยและควบคุมการแพร่เชื้อได้อย่างคุ้มค่า เนื่องจากอุปกรณ์การตรวจ ชุดป้องกันบุคลากร และค่าตรวจยังเป็นทรัพยากรที่มีจำกัดและราคาสูง จึงต้องทำให้เกิดความคุ้มค่ามากที่สุด
ภาพ : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ศบค.สั่งห้ามฉีดพ่นเล่นน้ำสงกรานต์ในบ้านเสี่ยงแพร่ COVID-19
อสม.เคาะประตูบ้านแล้ว 11.8 ล้านหลัง พบกลุ่มเสี่ยงกว่า 6 แสนคน
รพ.เอกชนหนุนรัฐดูแลผู้ป่วย COVID-19 "333 คน" เสริมเตียงนับพัน