วันนี้ (14 เม.ย.2563) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า หลังจากที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กำหนดมาตรการเพิ่มเติมในการบริหารจัดการ การเดินทางกลับเข้าประเทศไทยของคนสัญชาติไทยตามช่องทางบกหลายแห่งทั่วประเทศนั้น พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กำชับไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและหน่วยที่เกี่ยวข้อง อำนวยความสะดวกในการรับคนสัญชาติไทยกลับเข้ามาผ่านจุดผ่านแดนถาวรในพื้นที่ 21 จังหวัดชายแดน 23 ช่องทาง ตั้งแต่วันที่ 18 เม.ย.เป็นต้นไป
ทั้งนี้ การดำเนินงานต้องยึดหลักกฎหมาย ระเบียบ คำสั่งต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในช่วงการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งมีการกำหนดจำนวนผู้เดินทางวันละไม่เกิน 100 คนต่อช่องทาง และต้องเข้ามาตามกำหนดวัน และช่องทางผ่านแดนที่ระบุไว้ในหนังสือรับรอง โดยต้องเดินทางถึงช่องทางผ่านแดนก่อนเวลา 12.00 น.
สำหรับผู้เดินทางต้องมีใบรับรองแพทย์และหนังสือรับรองการเดินทางเข้าประเทศ ที่ออกโดยสถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุลใหญ่ไทยประจำประเทศที่พำนัก และยินยอมกักตัวตามสถานที่ที่รัฐกำหนดเป็นเวลา 14 วัน โดยให้จังหวัดชายแดนที่เป็นช่องทางในการเดินทางเข้ามาดำเนินกระบวนการคัดกรอง และกักตัวผู้เดินทางเข้ามาทุกคนไว้เพื่อสังเกตอาการในสถานที่กักกันตัวของจังหวัดโดยเคร่งครัด
ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จะเน้นการคัดกรองบุคคลตามหลักเกณฑ์การเข้าเมืองและระบบการคัดกรองโรค COVID-19 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องประจำด่าน พร้อมสร้างการรับรู้ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม อีกทั้งจะมีการระดมกำลังตำรวจในพื้นที่ ร่วมปฏิบัติกับทหาร ฝ่ายปกครอง และตำรวจตระเวนชายแดน เพิ่มมาตรการตรวจตราบุคคลที่อาจลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายตามช่องทางธรรมชาติ