วันนี้ (17 เม.ย.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางพเยาว์ มริตตนะพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM เปิดเผยว่า BEM ได้ยื่นหนังสือถึงนายดำเกิง ปานขำ รองผู้ว่าการฝ่ายปฏิบัติการ รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เพื่อแจ้งผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 โดยอ้างถึงสัญญาโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 2 (ฉบับแก้ไข) ลงวันที่ 20 ก.พ.2563 นำเสนอปริมาณจราจรและรายได้ค่าผ่านทางทางพิเศษเฉลิมมหานครและทางพิเศษศรีรัช ประจำเดือน ก.พ.-มี.ค.2563 นอกจากนี้ยังขอให้ กทพ.พิจารณาแนวทางการชดเชยผลกระทบ
เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรงและต่อเนื่องในปัจจุบัน ประกอบกับมาตรการต่างๆ ของรัฐบาล โดยออกคำสั่งห้ามทำกิจกรรมในสถานที่แออัด พร้อมออกคำสั่งห้ามบุคคลใดทั่วราชอาณาจักรออกนอกเคหสถาน ในช่วงเวลา 22.00-04.00 น. ส่งผลให้ปริมาณจราจรบนทางพิเศษ (ทางด่วน) เฉลิมมหานครและทางพิเศษศรีรัช ลดลงต่อเนื่องอย่างมีนัยสำคัญ
นางพเยาว์ กล่าวต่ออีกว่า เมื่อสถานการณ์คลี่คลายกลับสู่ภาวะปกติแล้ว BEM จะรายงานผลกระทบจากเหตุสุดวิสัยและเหตุการณ์ที่เป็นข้อยกเว้นที่เกิดขึ้น เพื่อให้เป็นไปตามสัญญา รวมถึงแนวทางการชดเชยผลกระทบต่อไป อย่างไรก็ตาม BEM ได้ตระหนักถึงความจำเป็นของภาครัฐ และความรับผิดชอบต่อสังคมร่วมกัน เพื่อแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินให้ยุติลงโดยเร็ว
ขณะที่รายงานจำนวนรถใช้ทางด่วน ในเดือน มี.ค.ลดลงร้อยละ 25.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เหลือที่ 950,000 คันต่อวัน โดยในไตรมาสแรกคาดว่าจะมีปริมาณรถใช้ทางด่วนลดลงร้อยละ 11.0 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และลดลงร้อยละ 8.8 เมื่อเทียบระหว่างไตรมาส โดยจะเหลือรถใช้บริการทางพิเศษเฉลี่ยอยู่ที่ 1.12 ล้านคันต่อวัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กทม.ตรวจ COVID-19 กลุ่มเสี่ยงเชิงรุก พบผู้ติดเชื้อใหม่ 2 คน
คาด 1 ต.ค.ใช้บัตรเดียวเชื่อมทั้งหมด "รถไฟฟ้า-เรือด่วน-รถเมล์"
ห่วง “เครื่องบิน” จอดทิ้ง ความร้อนทำอุปกรณ์ชำรุด