วันนี้ (20 เม.ย.2563) นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม แถลงข่าว การประชุม การติดตามโครงการขนาดใหญ่ที่ล่าช้า ในกระทรวงคมนาคม ซึ่งการประชุมครัังนี้มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าประชุมผ่านระบบแอปพลิเคชั่น ZOOM
รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังมีหลายโครงการที่ยังมีความล่าช้า ซึ่งมาจากเรื่องการบังคับใช้ข้อกฎหมาย การเช่าพื้นที่ และการควบคุมงานที่ไม่มีประสิทธิภาพ โดยขณะนี้ภาพรวมโครงการทางบก ของกรมทางหลวงและทางหลวงชนบท ขณะนี้สิ้นเดือน มี.ค. 2563 มีโครงการขนาดใหญ่ที่มีมูลค่าโครงการ 500 ล้านบาทถึง 1 หมื่นล้าน จำนวน 308 โครงการ แล้วเสร็จ 81 โครงการ ยังไม่แล้วเสร็จ 222 โครงการ
โดยโครงการที่ได้สั่งการให้เร่งรัด ได้แก่ โครงการก่อสร้างถนนพระรามสอง ทางหลวงหมายเลข 35 ทางแยกต่างระดับบางขุนเทียน-เอกชัย ซึ่งในขณะนี้ ภาพรวมการดำเนินการเร็วกว่าแผนที่วางไว้ หรือมีความคืบหน้า 69.31% โดยสั่งการให้เร่งการคืนผิวทางหรือการลาดยาง โดยตอนที่ 1 และ 2 จะแล้วเสร็จภายใน พ.ค. 2563 และแล้วเสร็จครบ 3 ตอนหรือ 100% ภายใน ก.ค. 2563 จากนั้นจะดำเนินการทางกลับรถ หรือเกือกม้า ให้แล้วเสร็จได้ ก.พ.2564
เร่งพัฒนาคูน้ำริม ถ.วิภาวดี - ทางหลวงพิเศษ
นอกจากนี้ ภายหลัง พ.ค. 2563 จะเริ่มดำเนินการก่อสร้างโครงการทางด่วนพระราม 3 ซึ่งเป็นทางด่วนยกระดับ โดยสั่งการให้มีการบูรณการร่วมกับการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เพื่อไม่ให้มีปัญหาติดขัดเรื่องจราจร โดยขณะนี้มีการวางแผนแล้ว โดยมีการออกแบบการก่อสร้างให้ไม่รบกวนผิวทางจราจร
นอกจากนี้ยังมีโครงการพัฒนาคูน้ำริมถนนวิภาวดีรังสิต ระยะที่ 2 ซึ่งมี 3 ตอน ขณะนี้มีความก้าวหน้า ส่วนที่ต้องเร่งรัด สามารถดำเนินการตามแผนงานได้ คาดว่าเมื่อดำเนินการแล้วเสร็จจะป้องกันปัญหาน้ำท่วมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ส่วนโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง บางใหญ่-กาญจนบุรี M81 โดยมีเส้นทางจาก อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี-จ.กาญจนบุรี ระยะเวลาดำเนินการ 2559 คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2566 ซึ่งที่ผ่านมามีปัญหาเรื่องการจ่ายเงินเวนคืน ขณะนี้แก้ปัญหาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทำให้การดำเนินการ 25 สัญญาสามารถดำเนินการต่อไปได้ คาดว่า จะสามารถเร่งรัดให้แล้วเสร็จได้ ในเดือน กุมภาพันธ์ 2566 เชื่อว่าจะเป็นเส้นทางคมนาคมจากกรุงเทพไปทางภาคตะวันตก ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลาการเดินทาง เพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น
สำหรับโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายบางปะอิน-สระบุรี นครราชสีมา มี 40 สัญญา ขณะนี้ภาพรวมโครงการแล้วเสร็จกว่าร้อยละ 80 ยืนยันว่า จะสามารถเปิดให้บริการได้ในปี 2565 พร้อมได้สั่งการให้เร่งรัดให้เปิดให้บริการก่อน โดยขณะนี้เหลือเพียงการติดตั้งระบบความปลอดภัยและค่าผ่านทาง
ทั้งนี้ ยังมีเส้นทางในภาคเหนือ คือทางหลวงหมายเลข 118 เชียงใหม่-เชียงราย โดยมี 8 สัญญา โดยการก่อสร้างยังมีปัญหา โดยได้สั่งการให้อธิบดีกรมทางหลวงเร่งรัดการก่อสร้าง โดยตอนนี้ช่วงที่ 1 ช่วง อ.ดอยสะเก็ด-อ.ป่าเมี่ยง ได้ก่อสร้างเป็น 4 ช่องจราจรเสร็จแล้ว และคาดว่าทุกช่วงจะดำเนินการแล้วเสร็จ เปิดบริการได้ในเดือน ก.พ.2564