วันนี้ (24 เม.ย.2563) จากการที่กระทรวงศึกษาธิการได้มีประกาศ เมื่อวันที่ 17 มี.ค.2563 ให้สถานศึกษาในสังกัดและในกำกับของกระทรวงศึกษาธิการปิดเรียนด้วยเหตุพิเศษ เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 และให้ส่วนราชการต้นสังกัดกำหนดแนวทางแก้ปัญหาการจัดการเรียนการสอน ประกอบกับวันที่ 7 เม.ย.2563 คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติรับทราบการเลื่อนเปิดภาคเรียนที่ 1 จากวันที่ 16 พ.ค. เป็นวันที่ 1 ก.ค. เพื่อความปลอดภัยของ นักเรียน ผู้ปกครอง และบุคลากร
นายกวินทร์เกียรติ นนธ์พละ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (รองเลขาธิการ กพฐ.) กล่าวว่า สพฐ.จำเป็นต้องดำเนินการจัดการศึกษา เพื่อให้นักเรียนสามารถเรียนรู้ได้จากที่บ้าน (Learn From Home) โดยการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลจัดการเรียนการสอนตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ ทั้งในระบบทางไกลผ่านดาวเทียมโดยความอนุเคราะห์ของมูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม ในพระบรมราชูปถัมภ์ และระบบออนไลน์ ออฟไลน์ ในระยะการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ให้เหมาะสมและครอบคลุมตามความพร้อมของผู้เรียนในสถานการณ์ปัจจุบัน จึงได้จัดตั้งศูนย์เฉพาะกิจการจัดการศึกษาทางไกลในสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ขึ้น เพื่อเป็นหน่วยกลางในการวางแผนการดำเนินงานการประสานงาน และการกำกับติดตามประเมินผล
ในการประชุมเมื่อวันที่ 23 เม.ย. ได้มีการหารือในเรื่องของการสำรวจความพร้อมในด้านอุปกรณ์การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของนักเรียน ผู้ปกครอง ครู และระบบการบริหารจัดการเรียนการสอน ซึ่งจะมีการขออนุมัติใช้ช่องรายการ กสทช. การเผยแพร่การเรียนการสอนระดับปฐมวัย ถึงระดับมัธยมศึกษาตอนต้น จากมูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม
รวมถึงการดำเนินการจัดทำสื่อวีดิทัศน์การสอนโดยครูต้นแบบ ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย พร้อมทั้งรวบรวมสื่อการเรียนรู้ออนไลน์ใน OBEC Content Center ชุดโปรแกรมและแพลตฟอร์มการเรียนรู้ และเตรียมโครงสร้างพื้นฐานระบบเครือข่ายเพื่อรองรับการให้บริการแพลตฟอร์มการเรียนรู้ให้เชื่อมโยงกับระบบ โดยจะมีการจัดให้ทดลองจัดการเรียนการสอนทางไกลขึ้น ในวันที่ 18 พ.ค.-30 มิ.ย.นี้
นายกวินทร์เกียรติ กล่าวว่า จะมีการเตรียมความพร้อมสำหรับครูโดยจัดทำคู่มือการเรียนการสอนทางไกลสำหรับครู บุคลากรการศึกษาและผู้เกี่ยวข้องให้ความรู้ในการใช้เครื่องมือเทคนิควิธีการเรียนการสอนทางไกล ซึ่งจะมีการเปิดศูนย์รับฟังความคิดเห็นการเรียนการสอนทางไกลจากผู้ปกครอง ประชาชน และผู้เกี่ยวข้องอีกด้วย
ปฏิทินรับนักเรียน ปี 63 สมัคร พ.ค.นี้
นายอำนาจ วิชยานุวัติ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยถึงกำหนดการรับสมัครนักเรียน ปีการศึกษา 2563 ว่า จะเปิดรับสมัครในวันที่ 3-12 พ.ค. จากนั้นหากสถานการณ์ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงจะจัดสอบคัดเลือกนักเรียนชั้น ม.1 ในวันที่ 30 พ.ค. และชั้น ม.4 ในวันที่ 31 พ.ค. ประกาศผลชั้น ม.1 วันที่ 3 มิ.ย. และชั้น ม.4 วันที่ 4 มิ.ย. และให้นักเรียนรายงานตัว ชั้น ม.1 ในวันที่ 6-8 มิ.ย. และชั้น ม.4 ในวันที่ 9-11 มิ.ย. ซึ่งอาจมีความยืดหยุ่นได้ แต่ต้องไม่เกินวันที่ 15 มิ.ย.
และหากโรงเรียนใดที่มีนักเรียนมาสมัครเกินกว่าแผนการรับนักเรียนที่กำหนดไว้ ให้ทางสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและโรงเรียน ร่วมกันกำหนดแนวทางในการคัดเลือกหรือสอบคัดเลือกสำหรับนักเรียนกลุ่มทั่วไปและวิธีการจับฉลากสำหรับนักเรียนในเขตพื้นที่บริการ โดยทุกโรงเรียนจะต้องดำเนินการมอบตัวให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 15 มิ.ย. เพื่อให้หลังจากนั้นเด็กที่สอบไม่ได้ต้องมีที่เรียนจึงต้องมีการเตรียมการอีก 15 วัน เพื่อให้ทันกำหนดการเปิดภาคเรียนที่ 1 ในวันที่ 1 ก.ค. ทั้งนี้ จะมีการทำหนังสือแจ้งอย่างเป็นทางการอีกครั้งภายในวันที่ 5 พ.ค.นี้
ส่วนวิธีการสอบคัดเลือกเข้าศึกษาของ สพฐ. จะใช้วิธีการสอบคัดเลือกโดยการจัดสอบ 100% ไม่มีการสอบทางออนไลน์เพื่อป้องกันปัญหาการทุจริตที่จะเกิดขึ้น และจัดสอบให้แล้วเสร็จภายในครึ่งวัน (9.00-12.00 น.) ส่วนการจัดห้องสอบและอาคารสถานที่ ในกรณีที่จัดสอบโดยใช้ห้องเรียน ให้จัดสอบไม่เกินห้องละ 20 คน และห่างกันอย่างน้อย 1.5 เมตร
และในกรณีที่จัดสอบโดยใช้อาคารอเนกประสงค์ให้ใช้วิธี Social Distancing เตรียมการจัดสถานที่ภายใต้แนวปฏิบัติการของกรมควบคุมโรค โดยให้นักเรียนทุกคนที่เข้าสอบสวมหน้ากากอนามัย มีมาตรการควบคุมก่อนเข้าห้องสอบ รวมถึงจัดให้มีห้องเพื่อให้นักเรียนรอก่อนเข้าสอบ และมีการเตรียมห้องไว้สำหรับนักเรียนที่เดินทางมาสอบยังสนามสอบหลักไม่ได้ด้วย
นอกจากมาตรการการจัดห้องสอบแล้ว ให้กำหนดแผนผังอาคารสอบแบ่งตามกลุ่มสาระวิชาอย่างชัดเจนและแจ้งให้ผู้ปกครองทราบก่อนวันสอบคัดเลือก เพื่อให้นักเรียนมาสอบตามอาคารที่กำหนด และขอความร่วมมือผู้ปกครองมาส่งและมารับนักเรียนตามกำหนดโดยไม่พักคอย หากจำเป็นต้องพักคอย ต้องมีการคัดกรองและพักคอยในจุดที่โรงเรียนจัดไว้ให้ รวมถึงเมื่อเสร็จสิ้นการสอบแล้ว อนุญาตให้นักเรียนออกจากห้องสอบทีละห้องพร้อมกับเว้นระยะห่างระหว่างการเดิน เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายการเว้นระยะห่างภายใต้สถานการณ์โรค COVID-19
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
"เรียนออนไลน์" ความท้าทายวงการศึกษา
เลื่อนเปิดเทอม กระทบเด็กเลื่อนชั้น "เรียนจบ - ไม่มีที่เรียนต่อ"
ไร้ปิดเทอม ต.ค.63 และ เม.ย.64 ชดเชยเลื่อนเปิดเทอม 2 เดือน
กทม.ปรับสอนออนไลน์-ส่งแบบฝึกหัดถึงบ้าน รับมือเลื่อนเปิดเทอม