ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"ดีเจภูมิ" โพสต์ไอจี ยอมรับผิด-ลั่นไม่มีอภิสิทธิ์คดีตกปลา

สิ่งแวดล้อม
24 เม.ย. 63
17:21
1,217
Logo Thai PBS
"ดีเจภูมิ" โพสต์ไอจี ยอมรับผิด-ลั่นไม่มีอภิสิทธิ์คดีตกปลา
อธิบดี ทช.ระบุผลตัดสินความผิด "ดีเจภูมิ "ลักลอบตกปลาในเขตอนุรักษ์ จะเป็นตัวอย่างป้องกันไม่ให้คนอื่นกระทำผิดอีก ด้านดีเจภูมิ น้อมรับคำตัดสิน พร้อมช่วยงานด้านอนุรักษ์ธรรมชาติ ยืนยันไม่มีอภิสิทธิ์

กรณีศาลจังหวัดชุมพร มีคำตัดสินในคดีที่ดีเจภูมิ หรือนายภูมิใจ ตั้งสง่า ดีเจชื่อดัง ตกปลาในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร โดยไม่ได้รับอนุ ญาต และศาลตัดสินจำคุกคนละ 4 ปี ปรับคนละ 40,000 บาท แต่เนื่อง จากรับสารภาพ จึงลดโทษกึ่งหนึ่งเป็นจำคุก 2 ปี ปรับ 20,000 บาท โดยศาลพิพากษาให้ดีเจภูมิพร้อมเพื่อนอีก 6 คน รอลงอาญา 2 พร้อมกับบำเพ็ญประโยชน์ 36 ชั่วโมง

วันนี้ (24 เม.ย.2563) นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กล่าวว่า ถือเป็นคดีที่เป็นตัวอย่างกับทุกคนในสังคม แม้จะเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงมากแค่ไหนหากไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย โดยเฉพาะกฎหมายที่ใช้คุ้มครองทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทุกคนจะต้องได้รับโทษที่กระทำไว้

นายโสภณ กล่าวอีกว่า การที่ดีเจภูมิสำนึกผิดกับสิ่งที่กระทำลงไปก็ถือเป็นสิ่งที่น่าชื่นชม ซึ่งเชื่อว่าจากนี้คงจะมีการผลิตผลงานที่รอบคอบ และไม่สร้างความเสียหายหรือกระทำผิดทางทรัพยากรธรรมชาติอีก อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกมุมที่ช่องของดีเจภูมิ มีส่วนในการทำกิจกรรมเพื่อสนับสนุนในด้านการดูแลทรัพยากรทางทะเลด้วย

หลังจากนี้หากดีเจภูมิ อาจมาเป็นอาสาช่วยสนับสนุนการดูแลทรัพยากรทางทะเลในทางที่ถูกต้องเหมาะสมก็จะเป็นผลดีมาก 

อ่านข่าวเพิ่ม คุก 2 ปี "ดีเจภูมิ" ตกปลาเขตอุทยานฯ รอลงอาญา-บำเพ็ญประโยชน์

ดีเจภูมิ โพสต์ไอจี ยอมรับผิด-ลั่นไม่มีอภิสิทธิ์


ด้านดีเจภูมิ ได้บันทึกคลิปเผยแพร่ผ่านทาอินสตราแกรม djpoom โดยระบุว่าโทษที่ได้รับถูกต้องแล้ว ยอมรับผิดในสิ่งที่ตัวเองได้ทำมา ยืนยันว่าตน และเพื่อนที่ได้รับโทษนั้นเข้าสู่กระบวนการรับโทษตามกฎหมาย ไม่มีอภิสิทธิพิเศษ หรือได้รับการช่วยเหลือใช้เส้นสายในคดีแต่อย่างใด เพียงแต่ตนเองรับสารภาพในชั้นศาล และเป็นความผิดครั้งแรก จึงได้รับการลดโทษลงตามคำตัดสิน

ทั้งนี้ถือเป็นบทเรียนของตนเองที่จะต้องระมัดระวังในการทำงานมากขึ้น ไม่กระทำผิดกฎหมาย โดยในอนาคตมีความยินดีอย่างยิ่งที่จะร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ รวมถึงกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ที่จะรณรงค์หรือเผยแพร่กิจกรรมเกี่ยวกับการอนุรักษ์ธรรมชาติอย่างถูกต้องเหมาะสมต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง