วันนี้ (18 พ.ค.2563) นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีรับทราบแนวทางการดำเนินโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียนและการสนับสนุนอาหารกลางวันในโรงเรียนรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 โครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียนและโครงการอาหารกลางวันในโรงเรียน
เพื่อให้มั่นใจได้ว่า นักเรียนกลุ่มเป้าหมายทุกคน จะได้รับสิทธิตามโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียนและโครงการอาหารกลางวันในโรงเรียน ที่มีคุณภาพ ถูกหลักอนามัย อย่างต่อเนื่องและครบถ้วนสอดคล้องกับปฏิทินการเปิดภาคเรียน
จากประกาศกระทรวงศึกษาธิการ ที่ให้โรงเรียนทั้งในและนอกระบบ ซึ่งอยู่ในสังกัด และในกำกับของกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเรียนในวันที่ 1 ก.ค.2563 กระทรวงศึกษาร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย กำหนดแนวทางที่เหมาะสม เตรียมความพร้อมโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน ให้นักเรียนได้ดื่มนมจำนวน 260 วันต่อปีการศึกษา
โดยภาคเรียนที่ 1/2563 กรณีเปิดเรียนวันที่ 1 ก.ค.2563 ให้นักเรียนบริโภคนมชนิดยูเอชที ตั้งแต่วันที่ 18 พ.ค.-30 มิ.ย.2563 กรณีเปิดภาคเรียนหลังวันที่ 1 ก.ค.2563 หรือจัดการเรียนการสอนแบบออนไลน์ สลับวันมาเรียน ให้นักเรียนบริโภคนมชนิดยูเอชที ตามโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียนจนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ
สำหรับโครงการอาหารกลางวันในโรงเรียนนั้น ให้นักเรียนตั้งแต่เด็กเล็ก และชั้นอนุบาลถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ได้รับประทานอาหารกลางวัน จำนวน 200 วันต่อปีการศึกษา โดยอุดหนุนเงินอัตรา 20 บาทต่อคนต่อวัน
สำหรับกรณีการจัดการเรียนการสอนแบบออนไลน์ หรือกรณีการสลับวันมาเรียน ให้จ่ายงบประมาณค่าอาหารกลางวันนักเรียนให้แก่ผู้ปกครองนักเรียนเพื่อนำไปจัดหาอาหารกลางวันให้นักเรียนรับประทานที่บ้าน รวมถึงอาหารมื้ออื่น ๆ ที่ส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐเคยจัดให้ ตั้งแต่วันเปิดภาคเรียนวันที่ 1 ก.ค.2563 จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ
กรณีมีการจัดการเรียนการสอนชดเชยนั้น ให้โรงเรียนดำเนินการจัดอาหารกลางวันให้แก่นักเรียนที่โรงเรียนได้เช่นเดียวกับวันจัดการเรียนการสอนตามปกติ