เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา กล่าวกับผู้ว่าการรัฐทั่วประเทศผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ถึงการรับมือเหตุประท้วงรุนแรงที่ลุกลามกลายเป็นจลาจลว่าแสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอ และเรียกร้องให้แสดงถึงความมีอำนาจ รวมทั้งใช้ยุทธวิธีเชิงรุกกับผู้ประท้วงเพื่อควบคุมสถานการณ์ ซึ่งยังไม่มีทีท่าว่าจะคลี่คลาย
ขณะที่มีรายงานว่า ระหว่างการประชุม ทรัมป์มีอารมณ์โกรธเกรี้ยวและไม่ได้ใช้น้ำเสียงที่ทำให้เกิดความเป็นหนึ่งเดียว ต่างจากผู้นำคนก่อนๆ ในภาวะที่ชาติกำลังเผชิญวิกฤต
ทั้งนี้ ทรัมป์ไม่ได้ออกแถลงการณ์ต่อสาธารณชนอย่างเป็นทางการ นับตั้งแต่ที่จอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวสีเสียชีวิตระหว่างถูกตำรวจควบคุมตัวเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งจุดชนวนการประท้วงรุนแรงที่ลุกลามไปทั่วประเทศ แต่ใช้วิธีโพสต์ข้อความทางทวิตเตอร์กระตุ้นให้เจ้าหน้าที่ใช้มาตรการที่แข็งกร้าวกับผู้ประท้วง
ด้านนายเทอร์เรนช์ ฟลอยด์ น้องชายของนายจอร์จ ฟลอยด์ เรียกร้องให้ผู้ประท้วงอยู่ในความสงบ และขอให้ชุมนุมเรียกร้องความยุติธรรมให้กับพี่ชายอย่างสันติ หลังเกิดความรุนแรงจากการประท้วงที่ลุกลามกลายเป็นจลาจลในหลายเมืองทั่วสหรัฐฯ โดยมีรายงานว่าเกิดการประท้วงในอย่างน้อย 140 เมืองทั่วประเทศ และมีการออกคำสั่งให้กองกำลังเนชั่นแนล การ์ด เข้าไปช่วยรับมือกับเหตุรุนแรงใน 21 รัฐ นอกจากนี้ยังมีรายงานการประกาศคำสั่งห้ามประชาชนออกจากเคหะสถานในยามวิกาล เพื่อพยายามควบคุมการประท้วงใน 40 เมือง
ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญแสดงความวิตกว่า การประท้วงที่เกิดขึ้นทั่วสหรัฐฯ ซึ่งมีคนจำนวนมากออกมารวมตัวกันจะเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อ COVID-19 เนื่องจากมีการตะโกนและกรีดร้อง อาจทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อ COVID-19 กลับมาเพิ่มสูงครั้งใหม่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
"ทรัมป์" หลบภัยห้องใต้ดิน หนีกลุ่มประท้วงรอบทำเนียบขาว
ประท้วงลุกลามทั่วสหรัฐฯ เคอร์ฟิวแล้ว 25 เมือง
ทั่วสหรัฐฯ ประท้วงเรียกร้องความเป็นธรรมให้ "จอร์จ ฟลอยด์"