วันนี้ (6 มิ.ย.2563) พญ.พรรณประภา ยงค์ตระกูล ผู้ช่วยโฆษก ศบค. แถลงสถานการณ์ COVID-19 ว่า ประเทศไทยพบติดเชื้อเพิ่ม 2 คน รวมสะสมมีผู้ป่วย 3,104 คน ไม่มีผู้ป่วยหายเพิ่ม คงที่จำนวน 2,971 คน รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 75 คน และผู้เสียชีวิตคงที่จำนวน 58 คน
ผู้ป่วยใหม่คนแรกเป็นผู้ป่วยชายไทย อายุ 22 ปี เป็นนักศึกษาเดินทางกลับมาจากประเทศรัสเซีย เข้าพักที่ State Quarantine จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. ตรวจพบเชื้อ COVID-19 เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.
อีกคนเพศชาย อายุ 39 ปี เป็นพนักงานโรงงาน ในประเทศคูเวต เดินทางกลับไทยและเข้าพักที่ State Quarantine ในกรุงเทพฯ ตรวจครั้งแรกไม่พบเชื้อ ก่อนตรวจพบเชื้อ COVID-19 ในวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา
พญ.พรรณประภากล่าวว่า สำหรับประเทศคูเวตมีคนไทยเดินทางกลับมาแล้ว 174 คน พบติดเชื้อ COVID-19 จำนวน 32 คน ขณะที่รัสเซียมีคนไทยเดินทางกลับมาแล้ว 342 คน พบติดเชื้อ 5 คน
เมื่อแยกผู้ป่วยยืนยันตามปัจจัยเสี่ยงจำแนกตามอาชีพ พบว่า 2 สัปดาห์ล่าสุด พบผู้ป่วยเป็น นักเรียน-นักศึกษามากที่สุด 14 คน รองลงมาคือ รับจ้างทั่วไป-ฟรีแลนซ์ 12 คน พนักงานนวด 11 คน พนักงานบริษัท-โรงงาน 8 คน และงานช่าง 2 คน
ขณะที่สถานการณ์ผู้ป่วย COVID-19 ทั่งโลก พบผู้ป่วยสะสมแล้ว 6,844,797 คน ป่วยเพิ่มวันเดียว 146,427 คน อาการหนัก 53,502 คน รักษาหายแล้ว 3,348,860 คน และเสียชีวิตสะสม 398,146 คน โดยสหรัฐอเมริกา ยังมีผู้ป่วยสะสมมากที่สุด 1,965,708 คน รองลงมาคือ ประเทศบราซิล และรัสเซีย ส่วนประเทศไทย อยู่อันดับ 80 ของโลก
ส่วนสถานการณ์ในฝั่งเอเชีย ประเทศอินเดีย ยังมีผู้ป่วยสะสมมากสุด 236,184 คน โดยต้นเดือนพ.ค. ประเทศอินเดียมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นวันละ 1,000-2,000 คน แต่ช่วงปลายเดือน พ.ค.อินเดียมีผู้ป่วยรายวันเพิ่มขึ้นหลักหมื่น ซึ่งถือว่าเพิ่มขึ้นสูงมาก ส่วนประเทศที่มีผู้ป่วยสะสมมากในเอเชียรองลงมาคือ ปากีสถาน และบังกลาเทศ
ข่าวที่น่าสนใจคือ รัฐบาลบราซิลได้อนุญาตให้ทดลองวัคซีนต้านไวรัส COVID-19 ในประเทศ ซึ่งวัคซีนนี้ผ่านการทดลอง และใช้ได้ผลกับลิงในห้องวิจัย ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการทดสอบกับอาสาสมัคร 10,000 คน
พญ.พรรณประภากล่าวต่อว่า ในเกาหลีใต้มีรายงานผู้ป่วยใหม่ 39 คน ส่งผลให้มีผู้ป่วย COVID-19 สะสม 11,668 คนแล้ว โดยเหลือผู้ป่วยในระบบอย่างน้อย 889 คน อาการหนัก 15 คน โดยการพบผู้ติดเชื้อไม่แสดงอาการ ซึ่งนับว่าเป็นอีกหนึ่งอุปสรรคของการควบคุม COVID-19 ในเกาหลีใต้ หลังศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคเกาหลีระบุว่า 25-35 % ของผู้ป่วยสะสมในประเทศเป็นกลุ่มไม่แสดงอาการ
ขอให้ประชาชนป้องกันตัวเอง ด้วยการสวมหน้ากาก และรักษาระยะห่าง หากต้องการไปท่องเที่ยวในสถานที่ต่างๆ หลังมาตรการผ่อนปรน ขอให้งดไปสถานที่ที่มีความแออัด และให้ความร่วมมือเช็กอิน-เช็กเอาท์ ผ่านแอปฯ ไทยชนะ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของ COVID-19 และให้สามารถสอบสวนโรคเพื่อเข้าสู่การรักษาได้อย่างรวดเร็ว