กรณีตำรวจเข้าจับกุมพนักงานวิชาการการเงินและบัญชีของสำนักงานจังหวัด ยักยอกงบประมาณราชการ 33 ล้านบาท ซึ่งได้ปลอมลายมือชื่อผู้มีอำนาจสั่งจ่ายและนำเงินบางส่วนไปเล่นการพนันออนไลน์นั้น นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบศีรีขันธ์ ได้มอบอำนาจให้นางกัลยารัตน์ นิลอ่อน หัวหน้าสำนักงานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน
ตำรวจจึงได้ขอศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์อนุมัติออกหมายจับ น.ส.ขนิษฐา หอยทอง อายุ 28 ปี ซึ่งเป็นพนักงานวิชาการการเงินและบัญชีของสำนักงานจังหวัด โดย น.ส.ขนิษฐา ยอมรับสารภาพว่า ใช้วิธีการปลอมลายมือชื่อผู้มีอำนาจสั่งจ่าย ตั้งแต่เดือน มิ.ย.2562 และนำเงินบางส่วนไปใช้ส่วนตัว
ผู้สื่อข่าวได้ขอเข้าพบนางกัลยารัตน์ นิลอ่อน หัวหน้าสำนักงานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เบื้องต้นนางกัลยารัตน์ปฏิเสธที่จะให้ข้อมูล โดยกล่าวเพียงว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างแก้ปัญหา ส่วนผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ลากิจ ไม่ได้มอบหมายให้ใครชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้น
ไม่เชื่อลูกจ้างสาวยักยอกเงินเพียงคนเดียว
ขณะที่ช่วงเย็นวานนี้ (22 มิ.ย.) ร.ต.อ.หญิง สุภาภรณ์ ดวงกันยา พนักงานสอบสวน สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ส่งตัว น.ส.ขนิษฐา ฝากขังครั้งแรกที่เรือนจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เนื่องจากศาลประจวบคีรีขันธ์ไม่อนุญาตให้ประกันตัว เพราะมีวงเงินการทุจริตสูง หลังจากได้ร่วมกับทนายความอาสาสอบปากคำผู้ต้องหาเพิ่มเติมนานกว่า 5 ชั่วโมง โดยรับสารภาพว่าทำการทุจริตเบิกจ่ายงบประมาณของทางราชการจริงและทำเพียงคนเดียว
ด้านนายนิพนธ์ สุวรรณนาวา รองประธานคณะกรรมการธรรมาภิบาล จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า การทุจริตกรณีดังกล่าวเป็นเรื่องที่อยู่ในขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรม รวมทั้งการสอบสวนทางวินัย โดยสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทยและระดับจังหวัดตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าการยักยอกงบประมาณ 33 ล้านบาท ใช้เวลานาน 1 ปี เหตุใดสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินจังหวัดจึงไม่ทักท้วงทั้งที่สำนักงานจังหวัดและ สตง.เป็นหน่วยงานที่ตั้งอยู่ในศาลากลางจังหวัด และส่วนตัวไม่เชื่อว่าเจ้าหน้าที่ระดับลูกจ้างชั่วคราวจะยักยอกเงินเพียงคนเดียว