วันนี้ ( 30 มิ.ย.63) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายศุภชัย ศรีศุภอักษร จำเลยในคดีความผิดฐานร่วมฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงข้อความอันเป็นเท็จถูกเบิกตัวมาจากเรือนจำบางขวาง เพื่อฟังคำตัดสินทางคดีสืบเนื่องจากกรณีเมื่อระหว่างปี พ.ศ.2552 - 2556 ต่อเนื่องกัน จำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 2 ได้โฆษณาเผยแพร่ให้ประชาชนทั่วไปทราบว่า กิจการของจำเลยที่ 1 เป็นธนาคารพาณิชย์มีสถานะการเงินมั่นคงน่าเชื่อถือสามารถจ่ายดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์พิเศษอัตราที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่ธนาคารพาณิชย์อื่นพึงจ่ายได้ เป็นเหตุให้โจทก์ทั้งหมดและประชาชนหลงเชื่อนำเงินมาฝากกับจำเลยที่ 1 ทั้งที่ความจริงแล้วจำเลยที่ 1 มีสถานะเป็นเพียงสถาบันการเงินเพื่อชุมชนเท่านั้นไม่มีสถานะเป็นสถาบันเป็นธนาคารพาณิชย์แต่อย่างใดทำให้จำเลยทั้ง 2 ได้เงินหรือทรัพย์สินจากโจทก์ไปรวมทั้งสิ้น 1,115,567,027 บาท
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วพิพากษายกฟ้องทั้งจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 เนื่องจากพยานหลักฐานยังรับฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นสหกรณ์ฯ กระทำผิดตามฟ้อง ขณะที่จำเลยที่ 2 พยานหลักฐานยังมีเหตุอันควรสงสัยจึงยกประโยชน์ให้จำเลยพิพากษายกฟ้อง
หลังฟังคำพิพากษานายศุภชัยถูกคุมตัวไปฟังคำพิพากษาในคดี อ.235 /2562 ที่มีนายคนอง จุลมนต์ กับพวก รวม 292 คน ยื่นฟ้องสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด เป็นจำเลยที่ 1 นายศุภชัย ศรีศุภอักษร ในฐานะประธานบริหารฯ เป็นจำเลยที่ 2 ในความผิดฐานร่วมฉ้อโกงประชาชน โดยแสดงข้อความอันเป็นเท็จอีก 1 สำนวน โดยคำพิพากษาคดีนี้ยกฟ้องจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 เช่นเดียวกัน สำหรับนายศุภชัย ปัจจุบันถูกคุมขังที่เรือนจำกลางบางขวาง ตามคำพิพากษาศาลฏีกาในคดียักยอกเงินฝากสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นจำนวน 22 ล้านบาท