วันนี้ (3 ก.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยของเมียนมายังคงระดมกำลังค้นหาผู้สูญหายที่ถูกฝังอยู่ใต้ดินโคลน หลังเกิดดินถล่มที่เหมืองหยกในรัฐคะฉิ่น ทางตอนเหนือของเมียนมา แต่การค้นหาต้องเผชิญอุปสรรคจากฝนที่ตกอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีรายงานว่ายอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 162 คน
หัวหน้าทีมกู้ภัย เปิดเผยว่า คนงานเหมืองถูกซัดด้วยคลื่นโคลนและหินหลังเกิดฝนตกหนัก ทำให้ดินซึ่งกลายสภาพเป็นโคลนพังถล่มไม่ต่างจากคลื่นสึนามิ โดยผู้เห็นเหตุการณ์สามารถบันทึกภาพขณะเกิดเหตุไว้ได้
ขณะที่ตำรวจระบุว่า มีการประกาศเตือนเมื่อวันพุธที่ผ่านมาไม่ให้คนงานเหมืองเข้ามาทำงานในบริเวณเหมืองหยกดังกล่าว หลังมีฝนตกหนัก แต่คนงานบางส่วนได้ฝ่าฝืนคำเตือน
ทั้งนี้ เหมืองหยกแห่งนี้ตั้งอยู่ห่างจากนครย่างกุ้งไปทางเหนือ ประมาณ 950 กิโลเมตร และอยู่ติดกับพรมแดนจีน ถือเป็นศูนย์กลางของเหมืองหยกที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยหยกที่ขุดได้ส่วนใหญ่จะถูกส่งขายให้กับผู้รับซื้อชาวจีน
กลุ่มโกลบอล วิทเนสส์ ซึ่งคอยตรวจสอบการทุจริตของรัฐบาลเมียนมา เคยประเมินตัวเลขไว้ในปี 2557 ว่าอุตสาหกรรมหยกของเมียนมาทำรายได้สูงถึงปีละ 31,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 930,000 ล้านบาท แต่รายได้ส่วนใหญ่กลับตกไปอยู่ในมือของกลุ่มนายทหารระดับสูงของเมียนมา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เหมืองหยกในเมียนมาถล่ม เสียชีวิตอย่างน้อย 113 คน