วันนี้ (3 ก.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเปิดเทอมได้เพียง 3 วัน เริ่มปรากฎภาพดราม่าการกล้อนผมที่ถูกแชร์ในโลกออนไลน์ โดยมีทั้งการเอาปากกามากากบาทบนศีรษะ การตัดผมแหว่งเลยไปจนถึงติ่งหู เพื่อทำโทษนักเรียนที่ผมยาวเกินติ่งหู พร้อมโพสต์ระบุตัวย่อชื่อโรงเรียนที่เด็กๆ ถูกกระทำ
ช่วงเช้าวันนี้มีกลุ่มนักเรียนที่เรียกตัวเองว่า "นักเรียนเลว" ไปยื่นหนังสือขอความชัดเจนในการบังคับใช้กฎการไว้ทรงผมของนักเรียน บริเวณหน้ากระทรวงศึกษาธิการ โดยระบุว่ามีคำร้องเรียนประเด็นนี้มากกว่า 300 กรณี ซึ่งส่งผลต่อสภาพจิตใจของเด็กนักเรียน
การแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ของกลุ่มนักเรียนนี้ โดยสื่อสารว่าเส้นผมที่ถูกตัดเปรียบเสมือนตัวแทนของนักเรียนชายและหญิงทั่วประเทศที่ถูกครูปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม พวกเขายังร่วมกันยื่นหนังสือขอความชัดเจนบังคับใช้กฎการไว้ทรงผมของนักเรียน ตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการไว้ทรงผมของนักเรียนปี 2563
หลังพบว่าช่วงก่อนเปิดภาคเรียนจนถึงวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา มีคำร้องจากนักเรียนว่าถูกครูจับตัดผมหรือกล้อนผมมากกว่า 312 โรงเรียนทั่วประเทศ ซึ่งถือว่าขัดกับระเบียบกระทรวงศึกษาธิการที่อนุญาตให้นักเรียนชาย-หญิงไว้ผมยาวตามความเหมาะสมได้ และยังริดลอนสิทธิของนักเรียนไทย เพราะไม่ได้มีอิสระบนร่างกายตัวเอง
นายลภนพัฒน์ หวังไพสิฐ นักเรียนชั้น ม.6 ระบุว่า ก่อนหน้านี้เคยเข้าไปพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ในกระทรวงฯ เพื่อหารือระเบียบทรงผมที่ชัดเจน โดยในที่ประชุมได้ให้คำตอบมา แต่ไม่ให้เผยแพร่ วันนี้จึงนำคำตอบนั้นกลับมาถามอีกครั้ง เพื่อต้องการนำไปเผยแพร่ให้ครูกับนักเรียนได้รับทราบ อีกทั้งยังต้องการให้กระทรวงฯ มีมาตรการจัดการตรวจสอบดูแลเรื่องดังกล่าว
ก่อนหน้านี้กลุ่มนักเรียนได้ไปจัดกิจกรรมนั่งเก้าอี้ด้านหน้าหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร พร้อมติดแฮชแท็ก #เลิกบังคับหรือจับตัด เพื่อให้คนเข้าใจความรู้สึกของนักเรียนไทยที่ถูกบังคับให้อยู่ในกรอบของผู้ใหญ่ และการลงโทษด้วยการจับตัดหรือกล้อนผมนั้นทำไม่ได้
ล่าสุด ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ยืนยันให้ทุกโรงเรียนต้องปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ เรื่องระเบียบการไว้ทรงผมของกระทรวงศึกษาธิการปี 2563 โดยหลังจากนี้จะส่งหนังสือแจ้งไปยังสถาบันการศึกษาเพื่อยืนยันแนวทางนี้อีกครั้ง