วันนี้ (9 ก.ค.2563) ผู้สื่อข่าวร่ายงานว่า บรรยากาศก่อนที่ห้างค้าทองย่านเยาวราชจะเปิดให้บริการ มีประชาชนและนักลงทุนที่เก็งกำไรในทองคำ มารอเพื่อจะนำทองคำแท่งมาขายทำกำไร ในช่วงที่ราคาทองคำปรับสูงขึ้นจนทำนิวไฮในรอบ 8 ปี
นักลงทุนคนหนึ่ง ระบุว่า สามารถขายทองคำที่สะสมทำกำไรร้อยละ 20-30 และเชื่อว่าราคาทองคำมีโอกาสปรับสูงขึ้นอีก เนื่องจากเศรษฐกิจไม่ดี หากเทียบเงินฝากก็ยังได้ผลตอบแทนที่สูง จึงน่าสะสม แต่การเลือกซื้อทองคำจะซื้อจากร้านค้าทองคำขนาดใหญ่ มีชื่อเสียงและได้มาตรฐาน ไม่เลือกซื้อออนไลน์ แม้ราคาจะต่ำกว่าร้านทองเพราะไม่มั่นใจ
ด้าน นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการกลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด หรือ ห้างทองแม่ทองสุก เปิดเผยว่า ทองคำยัดไส้จะเป็นไส้ตะกั่วทองแดง โดยหุ้มทองคำจริงด้านนอก และจะนำทองคำยัดไส้ขายในร้านค้าทองขนาดเล็กแถบปริมณฑลหรือในต่างจังหวัด ขณะที่ห้างค้าทองขนาดใหญ่จะมีช่างทองที่มีความเชี่ยวชาญในการดูลักษณะทองคำ เช่น มีขนาดเล็กกว่าทองจริง น้ำหนักไม่ได้มาตรฐาน ขนาดรูปลักษณ์ไม่สมส่วน ไม่เงา ซึ่งประชาชนสามารถตรวจสอบจากการวัดน้ำหนักและดูจากรูปลักษณ์ภายนอกได้ เช่น ตราประทับไม่ชัดเจนและวัดน้ำหนักจะต้องมีความหน่วงและตึง แต่เพื่อความมั่นใจประชาชนควรซื้อทองคำจากร้านค้าทองที่ได้มาตรฐาน เพราะร้านค้าทองขนาดใหญ่จะมีการตรวจสอบและสามารถจับกุมได้ทันทีหากพบว่ามิจฉาชีพนำทองมาขาย
ส่วนแนวโน้มราคาทองคําในปีนี้ คาดการณ์ว่าราคาทองคำยังมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้น จากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจและการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเหลือร้อยละ 0 ของธนาคารกลางสหรัฐฯ การอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบจำนวนมหาศาล ความตึงเครียดของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน รวมถึงการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ที่ยังเกิดขึ้นในหลายประเทศและกลับมาระบาดระลอก 2
ทั้งหมดเป็นปัจจัยที่กดดันให้คนหันมาลงทุนในทองคำมากขึ้น ซึ่งทำให้ราคาทองคำปรับสูงขึ้นตั้งแต่ต้นปี 2563 จนถึงปัจจุบันร้อยละ 17 และทำนิวไฮในรอบ 8 ปีอยู่ที่ 1,810 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ และคาดว่าปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้ยังกดดันให้ราคาทองปรับตัวสูงขึ้น จนถึงสิ้นปีคาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 1,930 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ซึ่งจะทำให้ราคาทองในประเทศอยู่ที่บาทละ 26,000-28,000 บาท
ด้านนายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ ระบุว่า ปีนี้ราคาทองคำยังมีทิศทางขาขึ้น โดยอาจเห็นราคาสูงเกิน 27,150 บาทต่อบาททองคำ สูงกว่าปีก่อนที่เคยทำนิวส์ไฮมาแล้ว แต่เชื่อว่าคงจะไม่แตะ 30,000 บาทต่อบาททองคำ เพราะยังมีหลายปัจจัยที่ทำราคาทองแกว่งตัว