วานนี้ (10 ก.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่จากศูนย์ปฎิบัติการพิทักษ์ป่า (ศปก.พป)เข้าตรวจสอบกรณีการก่อสร้างอาคารรีสอร์ต และลานกางเตนท์ ยึดพื้นที่บริเวณแหล่งท่องเที่ยว จุดชมวิวผาสิงห์ บนดอยภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์ โดยพบมีการฝ่าฝืนก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างใหม่ขึ้นในบริเวณนี้ และตรวจสอบพบบางรายบุกรุกก่อสร้างในพื้นที่ซึ่งเคยถูกดำเนินดคีและศาลได้มีคำพิพากษาให้จำเลยและบริวารออกจากพื้นที่บุกรุกและภาครัฐ โดยใช้คำสั่งคสช.ที่35/2559 รื้อถอนสิ่งก่อสร้างออกนอกพื้นที่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ภาพ:กรมป่าไม้
แต่ยังปรากฏว่ามีกลุ่มบุคคลเข้ามาบุกรุกยึดถือครอบครอง และก่อสร้าง รีสอร์ตบ้านพักตากอากาศ เพื่อบริการนักท่องเที่ยว บางรายตรวจสอบพบเป็นบุคคลเดิมที่เคยถูกดำเนินคดีแล้ว โดยเป็นพื้นที่ป่าในความรับผิดชอบของกรมป่าไม้ คณะเจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงได้เดินทางเข้าดำเนินการตรวจสอบตามแผนปฏิบัติการดั้งกล่าวข้างต้น
ภาพ:กรมป่าไม้
นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผอ.สำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ กล่าวว่า จากการตรวจยึดจับกุมกลุ่มบุคคลที่เข้ายึดถือครอบครองที่ดินในเขตป่าไม้ ในความรับผิดชอบของ กรมป่าไม้ 3 คดีประกอบด้วย คดีที่1 ผู้ต้องหา นายพีระพจน์ รักษ์มณี พื้นที่บุกรุก 4.3 ไร่ คดีที่ 2 ผู้ต้องหานาย กัวเน้ง แซ่ท้อ พื้นที่บุกรุก 3.2 ไร่ และคดีที่ 3 ไม่พบผู้กระทำผิด พื้นที่บุกรุก 1.2 ไร่
ภาพ:กรมป่าไม้
นอกจากนี้ทางฝ่ายปกครองได้ร่วมตรวจสอบแจ้งความเพิ่มดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 และ พ.ร.บโรงแรม 2547 ทุกแปลง ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันติดประกาศตามคำสั่ง คสช.ที่35/2563 ทั้ง 3แปลงเพื่อให้ดำเนินการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง ออกจากพื้นที่เพื่อฟื้นฟูพื้นที่
นอกจากนี้ชุดปฏิบัติการได้ขยายผลตรวจสอบพบการบุกรุกยึดถือครอบครอง ก่อสร้างรีสอร์ต บ้านพักตากอากาศอีกจำนวน 5 จุดบริเวณใกล้เคียง โดยขณะเข้าตรวจสอบพบคนงานจำนวนมากกำลัง ก่อสร้างต่อเติมอาคารหลายแห่ง
ภาพ:กรมป่าไม้
คณะเจ้าหน้าที่จึงเข้ากระจายกำลังควบคุมจับกุมได้ผู้กระทำผิดเป็นคนงานจำนวน 20 คนและตรวจสอบพบเจ้าของรีสอร์ตในที่เกิดเหตุ 2 รีสอร์ตในที่เกิดเหตุโดยตรวจสอบพบว่า 2 รายดังกล่าว เคยถูกแจ้งความดำเนินคดีมาแล้ว และศาลได้มีคำพิพากษาลงโทษให้จำคุกและโทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้มาแล้ว และสิ่งก่อสร้างเดิมได้ถูกรื้อถอนออกไปหมดแล้ว แต่ได้กลับมายึดถือครอบครองก่อสร้างในที่เดิม โดยไม่เกรงกลัวกฎหมายแต่อย่างใดคณะเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมผู้ต้องหาทั้งหมด มาดำเนินการทำบันทึกดำเนินคดีเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย