ความคืบหน้ากรณีผู้ป่วยหญิงไทยอายุ 31 ปี มีอาการปอดอักเสบและถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลศิริราช เนื่องจากสงสัยว่าอาจติดเชื้อ COVID-19
วันนี้ (16 ก.ค.2563) กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2563 เวลา 16.40 น. กรมควบคุมโรค ได้รับรายงานผู้ป่วยยืนยัน COVID-19 จำนวน 1 คน เป็นหญิงคนไทย อายุ 31 ปี ประวัติโรคประจำตัวเป็นโรคเบาหวาน จากโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ย่านราษฎร์บูรณะ เข้ารับการรักษาเป็นผู้ป่วยในตั้งแต่วันที่ 30 มิ.ย.2563 ด้วยอาการบวมตามแขนขา ต่อมาวันที่ 13 ก.ค.2563 ผู้ป่วยอาการไม่ดีขึ้น มีอาการปอดอักเสบ แพทย์สงสัยโรค COVID-19 จึงเก็บตัวอย่างจากโพรงจมูกส่งตรวจที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ผลพบเชื้อ
ต่อมาเก็บเสมหะตรวจซ้ำ ผลไม่พบเชื้อ และทางกรมควบคุมโรค ได้ทำการเก็บเสมหะเพิ่มเติมอีกครั้ง เพื่อส่งตรวจยืนยันในวันที่ 14 และวันที่ 15 ก.ค.2563 เนื่องจากการสอบสวนประวัติจากสามีพบว่า ผู้ป่วยไม่มีประวัติของปัจจัยเสี่ยงแต่อย่างใด และผลการตรวจโดยสถาบันบำราศนราดูร และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ไม่พบเชื้อเช่นเดียวกัน เบื้องต้นสรุปได้ว่าผู้ป่วยรายนี้น่าจะไม่ใช่ผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 อย่างไรก็ตามสถาบันบำราศนราดูรกำลังทำการตรวจโดยใช้เทคโนโลยีการหาลำดับเบสที่พัฒนาขึ้นใหม่ ซึ่งต้องรอผลอีกครั้งหนึ่ง
ทั้งนี้ หลังจากรับรายงานผู้ป่วยรายนี้ และอยู่ระหว่างรอผลการตรวจซ้ำ ทีมสอบสวนควบคุมโรค ของกรมควบคุมโรค ร่วมกับสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร ได้ไปที่โรงพยาบาลดังกล่าวเพื่อเริ่มการสอบสวนโรค ค้นหาผู้สัมผัส และตรวจหาเชื้อในผู้สัมผัสเสี่ยงสูง รวมทั้งดำเนินการควบคุมโรคร่วมกับโรงพยาบาล แม้ผลการตรวจของผู้ป่วยรายนี้จะยืนยันได้ว่าไม่พบเชื้อก่อโรค COVID-19 แต่การดำเนินงานในเหตุการณ์นี้ แสดงให้เห็นถึงการเตรียมความพร้อมของกระทรวงสาธารณสุขและเครือข่ายโรงพยาบาลในด้านการรักษาพยาบาล การเฝ้าระวังสอบสวนโรคและทรัพยากรการตรวจทางห้องปฏิบัติที่มีประสิทธิภาพ